Phones





LEO ไฟเขียวเข้าลงทุน LogiCam กัมพูชา พร้อมซื้อหุ้น “อาราเม็กซ์” เพิ่มอีก 10%

2023-11-28 10:04:24 298



นิวส์ คอนเน็คท์ - LEO ผนึกพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เสริมแกร่งธุรกิจบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ไฟเขียวทุ่มงบกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนใน LogiCam - LEO ลุยธุรกิจการบริการขนส่งสินค้าระหว่างไทย – กัมพูชา พร้อมซื้อหุ้น “อาราเม็กซ์ (ประเทศไทย)” เพิ่มอีก 10% ต่อยอดธุรกิจให้บริการขนส่งพัสดุและเอกสารเร่งด่วนระหว่างประเทศ 

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 ที่ประชุมคณะผู้บริหารบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท Logistics Intelligence (Cambodia) Co., Ltd., (LogiCam) เปิดบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ในประเทศกัมพูชา โดยใช้ชื่อว่า LogiCam – LEO (Cambodia) Co., Ltd. (LogiCam - LEO) เพื่อพัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร (Integrated Logistics Services) ระหว่างประเทศไทย - กัมพูชา ต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้าแบบครบวงจร รวมถึงอนุมัติการซื้อหุ้นเพิ่มเติมใน บริษัท อาราเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (ARM) 10% จากบริษัท ทรานสปีด เอเชีย จำกัด (Tran speed Asia) เพื่อให้บริการขนส่งพัสดุและเอกสารเร่งด่วนระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ LogiCam - LEO บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ของ LEO ประกอบธุรกิจส่งสินค้าแบบครบวงจร (Integrated Logistics Service) ซึ่งครอบคลุมถึงการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและภายในประเทศกัมพูชา การขนส่งข้ามประเทศ (Cross Border) ระหว่างไทยกับกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ การให้บริการศูนย์กระจายสินค้าและ คลังสินค้า รวมถึงการให้บริการพิธีการศุลกากรในประเทศกัมพูชา มีทุนจดทะเบียน USD 2,550,000 แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,550 หุ้น มูลค่าหุ้นละ USD 1,000 โดย LEO ลงทุน USD 1,020,000 คิดเป็น 40% และ กลุ่ม LogiCam (ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน) ลงทุน USD 1,530,000 คิดเป็น 60% คาดว่าจะเริ่มให้บริการภายในต้นปี 2567 และรับรู้รายได้เข้ามาทันที

การร่วมลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของทั้งสองฝ่าย ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านการให้บริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เป็นจุดแข็งของ LEO โดยปัจจุบัน LogiCam สามารถให้บริการขนส่งสินค้าได้อย่างครบวงจรทั้งนำเข้าและส่งออก บริการขนส่งจากประเทศไทยมายังกัมพูชาทั้งทางรถไฟและรถบรรทุกข้ามพรมแดน บริการขนส่งและกระจายสินค้าไปยังเมืองต่างๆ ทั่วประเทศกัมพูชา และบริการด้านการกระจายสินค้าและคลังสินค้า การจัดเก็บสินค้าตามความต้องการที่หลากหลาย ในส่วนของ LEO เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่สามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั่วโลก หรือ End-to-End Global Logistics Service Provider มี Network Agent อยู่มากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก และสามารถให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางเรือ ทางอากาศ ทางรถบรรทุก และรวมถึงการขนส่งทางรางทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับ LogiCam - LEO ให้มีขีดความสามารถในการให้บริการขนส่งสินค้าจากประเทศกัมพูชาไปยังทั่วโลก และจากทั่วโลกมายังประเทศกัมพูชาได้ครบวงจรและมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะผู้บริหารยังมีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในบริษัท อาราเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Aramex (Thailand) Co.,Ltd.) 10% จากบริษัท ทรานสปีด เอเชีย จำกัด (Transpeed Asia) ส่งผลให้ LEO ถือหุ้นเพิ่มเป็น 36% รองรับแผนการพัฒนาและต่อยอดในการขยายธุรกิจการให้บริการขนส่งพัสดุและเอกสารเร่งด่วนระหว่างประเทศกับบริษัท ARAMEX ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อันดับ 5 ของโลกในด้าน Courier & Express Service และมีจุดแข็งในการให้บริการไปยังประเทศในกลุ่ม Middle East และ South Asia ที่กำลังเป็นตลาดที่มีการเติบโตและบริษัทฯ มีการวางแผนในการขยายตลาดในกลุ่มประเทศนี้อย่างเข้มข้น

“LEO มองเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอยู่เสมอ จึงมองหาพันธมิตร ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาช่วยต่อยอดและเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนาธุรกิจ ประกอบกับวัตถุประสงค์หนึ่งในตอน IPO คือ การเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ ASEAN ที่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการโล จิสติกส์ และให้บริการสนับสนุนการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมของบริษัทฯ กับกลยุทธ์การบริหารที่ LEO มุ่งเน้นไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ซึ่งถึงพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่สนับสนุน และส่งเสริมกระบวนการที่เป็นเลิศ และสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้า และระบบโลจิสติกส์ของโลกในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจว่าการร่วมลงทุนกับพันธมิตรทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ ASEAN จะช่วยสร้างศักยภาพการแข่งขัน ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด และยั่งยืนในอนาคต” นายเกตติวิทย์ กล่าว