Phones





MASTER ประกาศซื้อกิจการใหม่อีก 5 แห่ง หนุนโตยั่งยืน

2023-11-29 08:07:45 218



นิวส์ คอนเน็คท์ - MASTER ประกาศซื้อกิจการใหม่อีก 5 แห่ง หลังปิดดีลเข้าลงทุนในธุรกิจให้บริการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง - คลินิกเสริมความงาม - ธุรกิจบริการ แย้มก่อนสิ้นปี 66 มีลุ้นประกาศอีก 1 ดีลใหญ่ หวังเติบโตไปด้วยกัน พร้อมมั่นใจทุกดีลที่เกิดขึ้นสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน เสริมสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต 

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช : Masterpiece Hospital” เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2566 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในกิจการซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาวะพึ่งพิง คลินิกเสริมความงาม และธุรกิจบริการ โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวนทั้งสิ้น 5 บริษัท 

1. การเข้าลงทุนในบริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด (บจก. ทวิงเกิ้ล สตาร์) สัดส่วน 40% โดยเป็นบริษัทประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ผลิตสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ 2. การเข้าลงทุนในบริษัท ทีวายพี เมดิคัล จำกัด (บจก. ทีวายพี) สัดส่วน 40% ซึ่งดำเนินธุรกิจ TYP Clinic เปิดให้บริการ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

3. เข้าลงทุนในบริษัท ซีเอ็มเอ็นเอช 2012 จำกัด (บจก. ซีเอ็มเอ็นเอช) สัดส่วน 40% โดยเป็น “ศูนย์ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุเชียงใหม่เนิร์สซิ่งโฮมแคร์ หรือ Chiangmai Nursing Home care” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่ 4.การเข้าลงทุนในบริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด (บจก. ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์) จำนวน 40% เป็นคลินิก ภายใต้ชื่อ “The Skin Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านปลูกผมไร้รอยแผล ศัลยกรรมความงาม เลเซอร์ต่างๆ และคลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังและความงาม และ 5. การเข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด (บจก. บีอีคิว) จำนวน 35% ซึ่งประกอบธุรกิจคลินิกปลูกผม ภายใต้ชื่อ “BEQ Clinic” ที่กรุงเทพมหานคร

การเข้าลงทุนครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับบริษัท และเป็นการดำเนินการตามนโยบายการลงทุนของบริษัทที่วางแผนลงทุนในกิจการที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัท ส่งผลทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเงินปันผลที่ได้รับจากการลงทุนซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท และทำให้บริษัทสามารถขยายเครือข่ายในการให้บริการและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

“MASTER ผสานจิ๊กซอว์ตามแผนที่เคยประกาศไว้ ซึ่งทำให้กลุ่ม MASTER จากนี้ พร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทาง โดยมุ่งการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยการนำกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER ด้วยนโยบายลงทุนในหุ้นของแต่ละบริษัทไม่เกิน 40%” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า บริษัทฯ ประกาศแผนซื้อกิจการจำนวน 5 ดีล ถือว่ามากกว่าที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ที่คาดจะมีดีลใหม่อย่างน้อยอีก 3 ดีล ทำให้ปัจจุบัน MASTER มีดีลซื้อกิจการแล้วทั้งสิ้น 9 ดีล โดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้น จะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากจะส่งผลบวกต่อบริการของทั้งกลุ่ม ช่วยให้เกิด Economy of Scale ในเรื่องของเวชภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต 

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของ บจก. ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำนวนไม่เกิน 4,721 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. ทวิงเกิ้ล สตาร์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 64,941,176.47 บาท นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของ บจก. ทีวายพี จำนวน 60,976 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. ทีวายพี รวมทั้งสิ้น 73,700,000 บาท ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งใหม่เพื่อรับโอนกิจการคลินิกเสริมความงามซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายใต้ชื่อ “TYP Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านเสริมจมูก ตาสองชั้น ปรับรูปหน้า โดยเป็นการรับโอนทรัพย์สินทั้งหมดที่ใช้การประกอบกิจการซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะเครื่องมือแพทย์ สิทธิการเช่า ลูกค้า และพนักงาน เพื่อให้บจก. ทีวายพี สามารถดำเนินกิจการคลินิก “TYP Clinic” ได้ต่อเนื่อง 

อีกทั้ง มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บจก. ซีเอ็มเอ็นเอช จำนวน 6,667 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. ซีเอ็มเอ็นเอช รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,000,000 บาท ซึ่งเป็นบริษัทประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ภายใต้ชื่อ “ศูนย์ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุเชียงใหม่เนิร์สซิ่งโฮมแคร์ หรือ Chiangmai Nursing Home care” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่ มีความชำนาญด้านดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยทางระบบสมองและประสาทไขสันหลัง ให้ได้รับการดูแลฟื้นฟูอย่างมีคุณภาพมาตรฐานตามหลักการแพทย์ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การทำกายภาพบำบัด รวมถึงกิจกรรมบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยทางระบบประสาท สามารถช่วยเหลือตัวเอง และกลับคืนสู่ครอบครัว และสังคมได้อย่างเหมาะสม 

มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บจก. ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ จำนวน 133,333 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 96,000,000 บาท ซึ่งเป็นกิจการคลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังและความงาม ภายใต้ชื่อ “The Skin Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านปลูกผมไร้รอยแผล ศัลยกรรมความงาม และเลเซอร์ต่าง ๆ โดยเป็นการรับโอนทรัพย์สินทั้งหมดที่ใช้การประกอบกิจการ ลูกค้า และพนักงาน ภายหลังการเข้าลงทุนของบริษัท บจก. ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ จะเข้าประกอบกิจการคลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “The Skin Clinic” ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 7 สาขาในกรุงเทพมหานคร รวมถึงโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมผม ภายใต้ชื่อ “ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล”

อีกทั้ง เข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด จำนวน 35% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. บีอีคิว รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 183,750,000.00 บาท ทั้งนี้ บจก. บีอีคิว เป็นบริษัทประกอบกิจการคลินิกให้บริการด้านการปลูกผม ภายใต้ชื่อ “BEQ Clinic” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่กรุงเทพมหานคร โดยมีความชำนาญด้านการปลูกผมครบวงจร ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเข้าลงทุนใน บริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด แล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2567 และคาดว่าจะเข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด แล้วเสร็จภายใน ไตรมาส 3 ปี 2567

นางสาวลภัสรดา กล่าวว่า การเข้าลงทุนในกิจการทั้ง 5 บริษัท จะใช้เงินที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานของบริษัท โดยนอกเหนือจากการได้รับผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนและจากเงินปันผลจากผลประกอบการของแต่ละกิจการในอนาคตแล้ว การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บจก. ทวิงเกิ้ล สตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการด้านผลิตสื่อโฆษณาจะช่วยส่งเสริมการเผยแพร่การบริการของบริษัทให้เข้าถึงผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับการเข้าร่วมลงทุนในกิจการเกี่ยวกับด้านสุขภาพและคลินิกเสริมความงามดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามนโยบายการลงทุนของบริษัทที่จะลงทุนในธุรกิจที่สามารถส่งเสริมและเป็นประโยชน์กับบริษัท ธุรกิจหลักของบริษัท การร่วมลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าและรูปแบบการให้บริการเสริมความงามให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท