นิวส์ คอนเน็คท์ – กฟผ. เตรียมเสนอบอร์ด 26 ธ.ค.นี้ พิจารณาสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติระยะยาวฉบับใหม่ เพื่อความมั่นคงด้านไฟฟ้าของประเทศ ขณะที่โรงไฟฟ้าพระนครใต้ 2,100 เมกะวัตต์ เข้าระบบปี 69-70 กฟผ.เป็นผู้จัดหาก๊าซเอง

เมื่อเร็วๆ นี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติระยะยาวฉบับใหม่ หรือสัญญา Global DCQ ระหว่าง กฟผ. กับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT นั้น จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กฟผ. ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ เพื่อให้พิจารณาอนุมัติเห็นชอบ
สำหรับสัญญาซื้อขายก๊าซระยะยาว Global DCQ เพื่อเป็นการนำเข้าก๊าซมาเป็นเชื้อเพลิงป้อนให้กับโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงของ กฟผ.เพื่อสร้างความมั่นคงด้านไฟฟ้าให้กับประเทศในระยะยาว ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ( กบง.) เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 62 ที่ให้ กฟผ. และ ปตท. เจรจาสัญญา Global DCQ ให้ได้ข้อยุติภายในสิ้นปี 62 ก่อนที่สัญญาฉบับเดิมที่มีการขยายอายุสัญญาจะสิ้นสุดลงภายในเดือนธ.ค.นี้

ขณะเดียวกัน กฟผ.ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG Shipper จะเป็นผู้จัดหาก๊าซ LNG เอง 100% สำหรับเป็นเชื้อเพลิงป้อนให้กับโรงไฟฟ้านครใต้ ที่จะมีการสร้างใหม่ เพื่อทดแทนโรงเดิมขนาดกำลังการผลิตรว 700 เมกะวัตต์ ที่กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในปี 69 เมกะวัตต์ และในปี 70 อีก 1,400 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิต 2,100 เมกะวัตต์ กฟผ.จะต้องเขียนแผนมานำเสนอบอร์ดกฟผ.ในเดือน ม.ค.63 ว่าจะนำเข้าก๊าซ LNG ในปริมาณเท่าไหร่

ส่วนกรณีคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.62 ที่ให้ยกเลิกการประมูลนำเข้า LNG ของ กฟผ.ในปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปีนั้น ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับฝ่ายบริหาร กฟผ. และ สหภาพแรงงาน กฟผ. แล้ว เนื่องจากความต้องการใช้ก๊าซในประเทศไม่ได้เพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์ และจะทำให้เกิดปัญหา take or pay ที่กระทบต่อค่าไฟฟ้า 2 สตางค์ต่อหน่วย

อย่างไรก็ตาม ได้ให้ฝ่ายกฏหมายของ กฟผ.ไปศึกษาดูข้อกฏหมายเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของ กฟผ. ว่า กรณีที่ ปิโตรนาส แอลเอ็นจี ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลจัดหา LNG ปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปีนั้น จะมีแนวทางอย่างไร เพราะยังไม่มีการลงนามในสัญญาระหว่างกัน