Phones





TTB จัดแคมเปญ “Tax Saving 2023” รับโค้งสุดท้ายปลายปี

2023-12-12 18:13:07 68



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – TTB ลุยแคมเปญ “Tax Saving 2023” คัดกองทุนรวมชั้นนำ กองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF ที่น่าสนใจ และกองทุนน้องใหม่ ThaiESG พร้อมแนะนำการลงทุนกับ ttb smart port SSF ลงทุนง่ายกับ 5 โมเดล เลือกได้ตามความเสี่ยงที่เหมาะสมกับผู้ลงทุน รับโค้งสุดท้ายปลายปี
 
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 นายนาวิน อินทรสมบัติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารการลงทุน ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดแคมเปญ “Tax Saving 2023” ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เพื่อให้การลงทุนและการลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องง่าย สะดวก และคุ้มค่า ทีทีบีจึงได้ คัด จัด ให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนกับ กองทุน SSF และ RMF ได้เลย โดยธนาคารได้จัดลำดับตามความเสี่ยงที่เหมาะสมในการลงทุนเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีและลดหย่อนภาษีได้อย่างคุ้มค่า ด้วยการเริ่มลงทุนง่าย ๆ ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ttb touch (ทีทีบี ทัช) ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่วางแผนการออมเพื่ออนาคตระยะยาวควบคู่กับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี
 
โดยในปีนี้มีกองทุนน้องใหม่ คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ “Thailand ESG Fund (ThaiESG)” เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุน พร้อมรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี โดยมีให้เลือก 2 กองทุน คือ 1. ES-SETESG-ThaiESG-A/D เน้นลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี SETESG Index เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยระยะยาว ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนทางภาษี และคาดหวังโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนในหุ้นไทยทั่วไป (ความเสี่ยงระดับ 6) มีให้เลือก 2 ชนิดหน่วยลงทุน คือ ชนิดหน่วยลงทุนสะสมมูลค่า Class A และสำหรับคนที่ชอบปันผล Class D ที่มีโอกาสรับเงินปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี
 
2. UTSEQ-THAIESG สร้างโอกาสได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) ที่มากกว่าการลงทุนใน SETESG Index โดยคัดสรรหุ้น 50-70 ตัว จาก SETESG Index ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ และคุณภาพ ทั้งด้านปัจจัยพื้นฐาน สภาพคล่อง และข้อมูลทางการเงินต่างๆ มาประกอบกัน เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว ใช้สิทธิลดหย่อนทางภาษี และต้องการให้ผู้จัดการกองทุนช่วยจับจังหวะ ปรับสัดส่วนและดูแลการลงทุน (ความเสี่ยงระดับ 6)
 
สำหรับมือใหม่ ที่ไม่มีเวลา สามารถลงทุนง่าย ๆ ด้วย ttb smart port SSF โดยมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลก จากAmundi และ บลจ.อีสท์สปริง มาช่วยดูแลคัดและปรับพอร์ตให้อัตโนมัติเพื่อรับทุกสถานการณ์สำคัญ พร้อมเลือกลงทุนได้ง่ายด้วยโมเดลกองทุนสำเร็จรูป สามารถเลือกลงทุนได้เองตามความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ ใน 5 โมเดล ได้แก่ 1. tsp1-preserver-SSF ลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ 80% และตราสารหนี้ต่างประเทศ 20% เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงและความผันผวนได้น้อย, 2. tsp2-nurturer-SSF ลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ 40% ตราสารหนี้ต่างประเทศ 40% หุ้นต่างประเทศ 20% เหมาะกับคนที่สามารถรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกนิด และต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นจากการลงทุนในหุ้น
 
3. tsp3-balancer-SSF ลงทุนแบบสมดุล 50/50 เพราะมีหุ้น 50% และตราสารหนี้ 50% มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เหมาะกับคนที่ต้องการกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย มองหาโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจ และสามารถรับความเสี่ยงได้ปานกลางขึ้นไป, 4. tsp4-explorer-SSF ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 45% หุ้นในประเทศ 25% ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20% ตราสารหนี้ในประเทศ 10% เหมาะกับคนที่เน้นเรื่องการลงทุนเพื่อเติบโตในระยะยาว สามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงได้ และ 5. tsp5-gogetter-SSF ลงทุนในหุ้น 100% แบ่งเป็นหุ้นในประเทศ 30% และหุ้นต่างประเทศ 70% เหมาะกับคนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่สูง สามารถรับความเสี่ยงและโอกาสการขาดทุนได้มาก จากการลงทุนในหุ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
 
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโปรโมชันพิเศษ เมื่อซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน SSF RMF และ ThaiESG ที่เข้าร่วมรายการ หรือโอนกองทุน LTF จาก บลจ. อื่น เข้ากองทุน LTF ของ บลจ. ที่เข้าร่วมโปรโมชัน ทุก 50,000 บาท ของการลงทุนในแต่ละบลจ. (ตามบลจ. ที่ได้ลงทุน) รับเงินลงทุนเพิ่มในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market) มูลค่า 100 บาท ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ธ.ค. 2566
 
สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ttb investment line หรือ โทร. 1428 กด #4