Phones





“โกลเบล็ก” แนะลงทุนหุ้นรับอานิสงส์งบ 3.6 ล้านล้านบ.

2024-01-17 15:55:25 10040



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - บล. โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยดือนแรกของปี 2567 แกว่งตัว Sideway ออกข้าง รับแรงหนุนจากตลาดลดน้ำหนักเฟดปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. เหลือ 70% ส่วนในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่ ประเมินกรอบดัชนี 1,390-1,440 จุด แนะลงทุนในหุ้นได้ประโยชน์จากมติครม.เคาะกรอบงบประมาณปี 68 วงเงิน 3.6 ล้านล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ต่ำกว่าตลาดคาด ส่งผลให้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเหลือ 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. จาก 79.5% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่หนุนแถมมีประเด็นลบจากการเลื่อนประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,390-1,440 จุด
 
สำหรับการที่ดัชนี CPI และ PPI ของจีนปรับตัวลงสะท้อนให้เห็นว่าจีนยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืดขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ แม้ว่ารัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายครั้งแล้ว และล่าสุดทางแบงก์ชาติจีนคงดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% สวนทางตลาดคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังมีอยู่ต่อกรณีที่สหรัฐและสหราชอาณาจักรทำการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายต่าง ๆ ของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน เพื่อตอบโต้ต่อการที่กลุ่มกบฏฮูตีโจมตีเรือพาณิชย์ซึ่งเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง จนส่งผลกระทบต่อการเดินเรือในทะเลแดง
 
ในส่วนของมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1-12 ม.ค. 2567 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,319.49 ล้านบาทและนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 6,325.87 ล้านบาท ขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,346.79 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 6,298.57 ล้านบาท
 
ส่วนปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ วันที่ 15-19 ม.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินปี 2566, วันที่ 17 ม.ค. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และปัจจัยต่างประเทศวันนี้ (17 ม.ค.) จีน รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2566 อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. สหรัฐ รายงานยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.วันที่ 18 ม.ค. จีนรายงานยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนธ.ค. ญี่ปุ่นรายงานยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนพ.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. อียูรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย. สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค. ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 19 ม.ค. ญี่ปุ่นรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. สหรัฐรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
 
ทั้งนี้ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากครม.เคาะกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 68 วงเงิน 3.6 ล้านล้านบาท โดยหุ้นที่ได้รับอานิสงส์คือกลุ่มรับเหมา ได้แก่ CK, STEC, CIVIL และ UNIQ