Phones





KTB – YLG ฉลองความสำเร็จซื้อขายทองคำบนแอปฯเป๋าตัง

2024-01-26 17:58:12 88



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – KTB จับมือ YLG ฉลองความสำเร็จบริการซื้อขายทองคำผ่าน Gold wallet บนแอปฯเป๋าตังยอดใช้งานพุ่ง จัดแคมเปญแจกทองผู้ใช้งานกว่า 6 รางวัล พร้อมตั้งเป้ายอดใช้งานปี 67 โตกว่า 1 เท่า รับเทรนด์ทองคำขาขึ้น คาดปีนี้ราคาทองมีโอกาสทำนิวไฮที่ 2,300 ดอลลาร์จากปัจจัยหนุนดอกเบี้ยขาลง
 
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ตลาดทองคำไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในแง่ของการบริโภคทองคำโดยรวม(Consumer Demand) ซึ่งเป็นการรวมกันของการบริโภคทองคำในภาคทองคำแท่งและในภาคการบริโภคเครื่องประดับ หากพิจารณาเฉพาะด้านการลงทุนในทองคำแท่งพบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา(2558-2565) ประเทศไทยบริโภคทองคำโดยรวมติดอันดับ 1 ใน 3 ของเอเชีย เป็นรองแค่เพียงจีนและอินเดียเท่านั้น และติดอันดับ 7 ของโลก ทำให้ปริมาณความต้องการบริโภคทองคำของไทยโดยเฉลี่ยในปี 2558-2565 อยู่ที่ 63 ตัน แม้ในปี 2563 ที่มีการระบาดของ COVID-19 กระตุ้นให้คนไทยเทขายทองคำ ทำให้การบริโภคทองคำโดยรวมของไทยติดลบมากถึง 81.5 ตัน ซึ่งลดลงจากระดับ 46.5 ตัน ในปี 2562 หรือลดลงมากถึง 275%
 
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 - 2565 ปริมาณการบริโภคทองคำโดยรวมของไทยฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 37 และ 38 ตันตามลำดับ โดยนับจากเหตุวิกฤต COVID-19 จนถึงปัจจุบันราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนเข้าถือครองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย YLG ในฐานะผู้ให้บริการด้านการซื้อขายทองคำครบวงจร จึงมีความต้องการขยายช่องทองการเข้าถึงทองคำให้ผู้บริโภคได้สะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลมากขึ้น
 
ทั้งนี้ YLG ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ในการเพิ่มช่องทางซื้อขายทองคำที่สะดวกผ่าน Gold wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนในการซื้อ-ขายทองคำความบริสุทธ์ 99.99 ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ด้วยราคาเรียลไทม์ ซื้อ-ขายทองต่อครั้งด้วย ขั้นต่ำ 0.1 ออนซ์ สูงสุดแบบเต็มเพดาน ได้สูงสุดถึง 700 ออนซ์ หรือ 20 กิโลกรัม ซึ่งวัตถุประสงค์ของ YLG เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการลงทุนทองคำ ที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์การลงทุนทองคำที่หลากหลายด้วยบริการที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า จึงจัดเเคมเปญ ลุ้นโชคทองกับ YLG x Krungthai บนแอปพลิเคชันเป๋าตังเพื่อแสดงความขอบคุณแก่ลูกค้าที่ให้ความสนใจและไว้วางใจซื้อทองคำกับ YLG บนแอปพลิเคชันเป๋าตังตลอดช่วง 1 ปีที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ง่ายกับ YLG อีกด้วย โดยเเคมเปญนี้เปิดโอกาสให้ลูกค้าทุนท่านที่เปิดบัญชีซื้อทองคำบนแอปพลิเคชันเป๋าตังกับ YLG ในปี 2566 มีสิทธิเข้าร่วมลุ้นรับรางวัลในครั้งนี้ เพียงเเค่ทำตามกติกาที่กำหนดในเเคมเปญ ก็สามารถเข้าร่วมรับสิทธิลุ้นโชคทองได้ทุกคน
 
โดยหลังจาก YLG ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ในการเปิดให้บริการ Gold wallet บนแอปฯเป๋าตัง พบว่าสามารถช่วยเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงการลงทุนในทองคำได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 40 ปี ที่ในปี 2565 มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 40% ขณะที่ล่าสุดสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเป็นเกือบ 60% ซึ่งถือว่าบริการ Gold wallet มีส่วนทำให้นักลงทุนรุ่นใหม่เข้าถึงการลงทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นมานี้ครอบคลุมนักลงทุนในลงทุนออนไลน์ของ YLG ผ่านแอปฯ Get Gold แอปฯสำหรับมือใหม่ที่สามารถเริ่มต้นซื้อขายทองคำได้เพียง 100 บาท และแอปพลิเคชันตัวใหม่ YLG Gold Investment ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแรกของไทยที่จะยกระดับการลงทุนในทองคำที่สามารถซื้อขายทองคำได้ถึง 5 สกุลเงิน ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท
 
ขณะที่ทิศทางการเคลื่อนไหวของทองคำในปี 2567 ภาพใหญ่ยังเป็นขาขึ้น แม้ระยะสั้นจะอาจมีการปรับฐานหลังจากที่ช่วงต้นปีราคาปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมาก แต่ภาพระยะกลางก็ยังเป็นลักษณะแกว่งตัวขึ้น จึงมองว่าปีนี้ทั้งปีจะมีโอกาสทำราคาสูงสุดใหม่ที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เนื่องจกาได้ปัจจัยหนุนจากนโยบายดอกเบี้ยขาลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจากทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นนี้จึงคาดว่าในปี 2567 จะมียอดผู้ใช้งานผ่าน Gold wallet บนแอปฯเป๋าตัง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากกว่า 1 เท่า
 
ด้านนายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า การจับมือเป็นพันธมิตรกับ YLG ถือเป็นความสำเร็จที่ธนาคารได้นำร้านทองที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นร้านทองชั้นนำของประเทศไทยมาเปิดบริการบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet ในแอปฯเป๋าตังให้กับนักลงทุนทองคำไทยสำหรับการทำธุรกรรมส่งคำสั่งซื้อ-ขาย-ถอน ทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% ที่อ้างอิงราคาตลาดโลกแบบเรียลไทม์ แสดงถึงความเป็นผู้นำทางด้านการลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัล และตอกย้ำว่า “เป๋าตัง” เป็นซูเปอร์แอป ที่เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และโปร่งใส ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น