ดร. ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Managing Director KBTG กล่าวว่า AI กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีอเนกประสงค์ (General-purpose Technology) ดูด้วยตาอาจจะไม่เห็น แต่อยู่ทุกที่แน่นอน โดย KBTG ถือเป็นอีกหนึ่งผู้บุกเบิกทางด้าน AI ในประเทศและภูมิภาค สร้างเป็น AI Ecosystem ในด้านต่างๆ ดังนี้ ด้านเทคโนโลยี: KBTG Labs มีการทำวิจัยร่วมกับ MIT Media Lab อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 รวมถึงการออกแบบเทคโนโลยี เช่น ระบบเปรียบเทียบใบหน้า (Face Recognition) และยืนยันหน้าจริง (Face Liveness) ให้ล้ำสมัยและใช้งานง่าย โดยจากผลงาน Face Liveness ทำให้ปัจจุบัน KBTG เป็นองค์กรเดียวในเอเชียและองค์กรที่สามของโลกที่ผ่านการรับรองระดับสูงสุด (Level 2) จากการทดสอบของ iBeta ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล พร้อมเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ FinLearn แพลตฟอร์มการศึกษาที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมฟีดแบ็คแบบเรียลไทม์
ด้านการค้า จากเทคโนโลยีที่ KBTG Labs วิจัยและพัฒนา สู่การนำเข้าสู่ตลาด กระบวนการนี้จะถูกดูแลโดย KX ซึ่งเป็น Venture Builder ในเครือ KBTG เพื่อให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้กับธุรกิจของตนได้ โดยมีจุดเด่นคือการที่ทีมผู้พัฒนาอยู่ที่ประเทศไทย จึงสามารถรองรับการใช้งานหรือเข้าแก้ไขในกรณีที่เกิดปัญหาได้ทันที ปัจจุบันมีการเปิดตัว 2 แพลตฟอร์มและบริการทางด้าน AI คือ 1.AINU (อัยนุ) ผู้ให้บริการโซลูชัน AI นำร่องด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการยืนยันตัวตน 3 ฟีเจอร์เด่น คือ OCR (Optical Character Recognition) ระบบแปลงข้อมูลจากภาพ Liveness Detection ระบบยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าจริงๆ ของตัวบุคคล และ Face Recognition ระบบเปรียบเทียบใบหน้าเพื่อการยืนยันตัวตน และ 2.Car AI เทคโนโลยี AI ตรวจสภาพรถยนต์แบบอัตโนมัติเพื่อประเมินความเสียหายจากรูปภาพ สำหรับธุรกิจประกัน ซื้อขายรถยนต์มือสอง และอื่นๆ
ในส่วนของด้านการลงทุนนั้น KXVC ได้มีการลงทุนในสตาร์ทอัพ AI และจับมือกับกองทุนด้าน AI ชั้นนำของโลกอย่าง AI FUND นำโดย Andrew Ng ผู้ก่อตั้ง DeepLearning.AI พร้อมมุ่งสรรหาเทคโนโลยี AI ใหม่ๆ จากทั่วโลกมาช่วยเพิ่มกำลังทางธุรกิจ ร่นระยะเวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีออกสู่ตลาด รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อสเกลธุรกิจ AI และเป็นประตูระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่นๆ อย่างยั่งยืนต่อไป