Phones





EURO โชว์ผลงานปี 66 ฟาดกำไร 163 ล้านบาท พุ่ง 20%

2024-02-27 17:58:34 50



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – EURO ประกาศผลงานปี 2566 มีรายได้ 1,263 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 163 ล้านบาท เติบโต 20% จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งจากลูกค้า B2C และลูกค้า B2B มั่นใจผลงานปี 67 ดีต่อเนื่อง จากยอดขายสินค้าแบรนด์ใหม่และยอดสั่งซื้อสินค้าที่รอส่งมอบ วางเป้าหมายกำไรปีนี้เติบโตนิวไฮ
 
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EURO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2566 สามารถขับเคลื่อนการเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 1,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% และมีกำไรสุทธิ 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% หากเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทฯ สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 47% เท่ากับปีก่อน โดยความสำเร็จดังกล่าวมาจากฐานลูกค้าระดับลักชัวรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่แทบไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวช้าของประเทศ มีการใช้ชีวิตที่ให้ความสำคัญกับการตกแต่งที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และการอยู่อาศัยภายในบ้าน รวมถึงเทรนด์ในการดูแลรักษาสุขภาพโดยการออกกำลังกาย ทำให้มีการสร้างฟิตเนสภายในที่อยู่อาศัยรวมถึงออกไปใช้บริการฟิตเนสนอกบ้าน
 
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมระดับลักชัวรี่ทั่วโลกในปีที่ผ่านมายังเติบโตได้ดี สะท้อนจากผลการดำเนินงานของบริษัทสินค้าแบรนด์เนมที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และโครงการโรงแรม รีสอร์ทและบ้านหรูในประเทศไทยที่เปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นและสามารถทำยอดขายที่ดีมาก สะท้อนเป็นรายได้และกำไรของบริษัทที่เติบโตทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อย (B2C) และลูกค้าโครงการ (B2B)
 
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 มั่นใจว่าจะเติบโตทำนิวไฮ จากยอดสั่งซื้อสินค้าที่เตรียมส่งมอบ (Backlog) ในปีนี้ จึงวางเป้าหมายรายได้ปี 2567 เติบโต 20% โดยมาจากการเปิดโชว์รูมใหม่ที่ภูเก็ตเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ เพื่อขยายฐานลูกค้ารายย่อยและโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงขยายตลาดสู่จังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันมีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ และภายในไตรมาส 2/2567 จะเปิดโชว์รูมใหม่อีกแห่งในย่านทองหล่อ ซอย 5 ตอกย้ำการวางเป้าหมายในการระดมทุนเพื่อสร้างการเติบโตภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
 
ทั้งนี้ consensus จากบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 4 แห่งได้แก่ บล. ทรีนีตี้, บล. ฟินันเซีย ไซรัส และ บล. กรุงศรี พัฒนสิน และบล. เคจีไอ ประเมินราคาเป้าหมายของ EURO ในปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 13.80 – 14.90 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 2566 – 2568 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากเทรนด์กลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี่ที่มีความต้องการตกแต่งที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น แผนเปิดโชว์รูมใหม่อีก 3 แห่ง เพื่อนำเสนอเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น การเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้า ประกอบกับสินค้ากลุ่มลักชัวรี่มีอัตรากำไรในระดับสูง