Phones





BBLปี62โกยกำไรเข้ากระเป๋า35,816ลบ.

2020-01-22 07:39:35 1149




นิวส์ คอนเน็คท์ – BBL ประกาศกำไรสุทธิปี 62 ที่ระดับ 35,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากปีก่อน หลังรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการยังเติบโตตามการขยายตัวของสินเชื่อ ขณะที่ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์และกองทุนยังขยายตัวดี


เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รายงานกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารในปี 2562 จำนวน 35,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากปีก่อน โดยมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 3.3% เป็นผลจากค่าธรรมเนียมจากการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเติบโตของค่าธรรมเนียมจากบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวม ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของธนาคาร ในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงเล็กน้อย โดยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2.35% รายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 52.3% ซึ่งมาจากกำไรสุทธิจากเงินลงทุน


ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับทรงตัว แต่ธนาคารมีการตั้งค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษในปี 62 เพื่อเสริมสร้างระดับสำรองของธนาคารให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นตามหลักความระมัดระวัง ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่กฎเกณฑ์ใหม่ทางบัญชีซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการกันสำรองที่ลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลงเล็กน้อยราว 0.4% จากปีก่อน ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานยังคงอยู่ในระดับ 41.1%


สำหรับฐานะการเงินและเงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นเดือนธ.ค.62 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,061,309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.0% จากสิ้นเดือนก.ย.62 ซึ่งจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อทุกกลุ่ม สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.4% ขณะที่เงินสำรองของธนาคารคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 220.2% ของเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ โดยธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลกระบวนการอำนวยสินเชื่อและการบริหารความเสี่ยง พร้อมทั้งบริหารคุณภาพสินเชื่อควบคู่กับการดำรงค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


ทั้งนี้ ธนาคารยังคงแนวทางการบริหารฐานะการเงินด้วยความระมัดระวัง พร้อมทั้งรักษาเงินกองทุนและสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ณ สิ้นปี62 อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ 86.9% ขณะที่เมื่อวันที่ 25 ก.ย.62 ธนาคารออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิอายุ 15 ปี ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ภายใต้หลักเกณฑ์ Basel III จำนวน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนให้โครงสร้างเงินกองทุนของธนาคารมีความเหมาะสมมาก


โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค.62 อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 20.0%, 17.0% และ 17.0% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews