Phones





‘เอกา โกลบอล’ แย้มยอดขายแพ็กเกจจิ้งแห่งอนาคตโค้งแรกโต 15%

2024-03-25 18:32:41 69



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – “เอกา โกลบอล” เผยไตรมาส 1/67 ยอดขายบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร บรรจุภัณฑ์แห่งอนาคตเติบโตกว่า 10-15% หลังผู้บริโภคกลับเข้าสู่วิถีชีวิตเร่งรีบจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเป็นปกติ หนุนดีมานด์อาหารพร้อมรับประทานในประเทศและส่งออกพุ่ง
 
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/2567 มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมากกว่า 10-15% จากปี 2566 เป็นการเติบโตจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) กลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม (Pet-Foods) และกลุ่มบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม (กรีนโปรดักส์) โดยเติบโตทั้งจากตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอินเดียที่รักษาอัตราการเติบโตได้มากกว่า 100%
 
ทั้งนี้ มองการเติบโตเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดอาหารโลก โดยเฉพาะอาหารพร้อมรับประทาน ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดในประเทศและตลาดส่งออกใกล้เคียงกัน อ้างอิงข้อมูลจากบทวิเคราะห์ของฝ่ายวิจัยคาดการณ์อัตราการเติบโตของตลาดอาหารในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นราว ๆ 5 – 6% โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมช่วยยืดอายุการจัดเก็บอาหารที่ยาวนานขึ้น หรือ มีนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน เป็นแรงผลักดันตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
 
ขณะที่การเติบโตของตลาดในประเทศ มีแรงหนุนจากการขยายตัวของเมืองทำให้อาหารพร้อมรับประทานรูปแบบต่าง ๆ เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ประกอบกับผู้ผลิตอาหารมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รวมถึงการเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้บริโภคหลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ มีความเร่งรีบและไม่มีเวลาจัดเตรียมอาหาร ทำให้อาหารพร้อมรับประทาน ที่มีความสะดวก มีมาตรฐานการผลิตทั้งด้านความสะอาด และรสชาติที่ดี มีราคาใกล้เคียงกับอาหารปรุงสด ตลอดจนการส่งเสริมการขายต่าง ๆ จะตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันมากกว่า
 
ในส่วนของตลาดส่งออก คาดการณ์ปริมาณการส่งออกอาหารพร้อมรับประทานจะเติบโตโดยเฉลี่ย 5 – 6% ต่อปี โดยนอกจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่กลับเข้าสู่สภาวะเร่งรีบแล้ว มองแนวโน้มการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกจะค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้บริโภคหันมานิยมอาหารพร้อมรับประทานที่มีราคาเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรโลกที่นิยมอาศัยอยู่คนเดียว หรือ มีครอบครัวที่เล็กลง ยังรวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีความต้องการอาหารเพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคต่อครั้งมากกว่าการซื้อวัตถุดิบเตรียมไว้เพื่อปรุงอาหารในปริมาณมาก
 
อย่างไรก็ตาม ตลาดอาหารยังมีปัจจัยท้าทาย โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก อาจส่งผลต่อปริมาณและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงกระแสรักสุขภาพที่ผู้บริโภคทั่วโลกหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น บวกกับนโยบายสนับสนุนการลดการบริโภคโซเดียมของไทยและทั่วโลก จะทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้ออาหารที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพมากขึ้น ซึ่งส่วนนี้จะเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการที่จะต้องยกระดับสินค้าให้ได้มาตรฐาน
 
“ยังมีเมกะเทรนด์โลกด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดอาหาร โดยหลายประเทศมีความเข้มงวดมากขึ้น อาทิ สหภาพยุโรปได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ โดยจะต้องติดฉลากรีไซเคิลตามสินค้า เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภครักษ์โลก และปฏิบัติตามมาตรการสหภาพยุโรป เป็นต้น” นายชัยวัฒน์ กล่าว