Phones





QTCG เคาะราคา IPO 1.20 บ./หุ้น จ่อเทรด mai วันที่ 4 เม.ย.นี้

2024-03-26 12:44:23 274




นิวส์ คอนเน็คท์ - QTCG เคาะราคาไอพีโอ 1.20 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 27-29 มีนาคมนี้ พร้อมลั่นระฆังเทรดกระดาน mai ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง วันที่ 4 เม.ย.นี้ ด้าน Joint Lead Underwriters ยูโอบี เคย์เฮียน และ ทรีนีตี้ ระบุ QTCG จัดเป็นหุ้น Growth Stock ที่มีความโดดเด่นในการสร้างมูลค่าเพิ่มสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 ดร.วีรพัฒน์ เพชรคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม (Joint Lead Underwriter) ของ บมจ.คิวทีซีจี หรือ QTCG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของ QTCG จำนวน 180 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) เท่ากับ 32.69 เท่า เทียบกับอุตสาหกรรมที่มี (P/E Ratio) ที่ 33.16 – 39.77 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม โดยกำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม 2567  

โดยเม็ดเงินที่ QTCG จะได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 200.40 ล้านบาท จะเพิ่มศักยภาพ ความแข็งแกร่งฐานะทางการเงินให้กับบริษัทฯ สู่การต่อยอดการลงทุนสำหรับโครงการใหม่ๆ ในอนาคต ทำให้เชื่อว่าความสำเร็จภายใต้การระดมทุนของ QTCG จะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการสร้างโอกาส การเติบโตให้กับบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้เชื่อว่าการเสนขายหุ้นครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี จากนักลงทุน เนื่องจาก QTCG เป็นหนึ่งฟันเฟืองที่ต่อยอดความสำเร็จในการสร้างรากฐานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างในการวางระบบวิศวกรรมภายในอาคาร ดังนั้นจึงมั่นใจว่า QTCG จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างมูลค่าเพิ่มสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

นายธิติวัฒน์ เงินนำโชคธนรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ QTCG กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในวันที่ 4 เมษายนนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายภายใต้“QTCG” สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 200.40 ล้านบาท ของมูลค่าหุ้นที่เสนอขาย จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัทฯ ภายในปี 2567 – 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายโอกาสต่อยอดธุรกิจ ให้มีความมั่นคงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว สู่การก้าวเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการด้านรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical: M&E) อย่างครบวงจรของประเทศไทย

QTCG ดำเนินธุรกิจด้านงานรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารอย่างครบวงจร ประกอบด้วย 1) การให้บริการงานรับเหมาติดตั้งงานระบบและการสื่อสาร 2) การให้บริการงานรับเหมาติดตั้งงานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ 3) การให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบสุขาภิบาลและระบบประปา และ 4) การให้บริการงานรับเหมาติดตั้งงานระบบป้องกันอัคคีภัยภายในอาคาร ด้วยประสบการณ์ ที่สั่งสมยาวนานกว่า 23 ปี ทำให้บริษัทฯ มีทีมวิศวกรที่มากด้วยประสบการณ์และมีศักยภาพให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมภายในอาคารให้กับโครงการคุณภาพมาแล้วมากกว่า 1,000 โครงการ 

ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ฐานะทางการเงินของ QTCG มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สู่การขับเคลื่อนสำหรับการรองรับการเข้าประมูลโครงการใหญ่ในอนาคต เพื่อต่อยอดและขยายฐานงานเดิมที่มีอยู่         โดย ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีมูลค่างานที่ยังไม่ได้รับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 1,158 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานขนาดใหญ่ในกลุ่มลูกค้าที่มีชื่อเสียงต่อเนื่องจากโครงการเดิม อาทิ โครงการ CIB International school, โครงการ คอนโด ชูช์ ราชเทวี (SHUSH), โครงการก่อสร้างอาคารกระทรวงมหาดไทย, โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โซน C, โครงการ วัน อมตะ, โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ตลาดยิ่งเจริญ, โครงการ KIS International school เป็นต้น

อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2567 ว่าจะมีการขยายตัวที่ดีขึ้น เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ในช่วงเดือนมิถุนายน - กันยายน 2567 ส่งผลให้โครงการก่อสร้างต่างๆ ต้องเร่งเดินหน้าลงทุน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวจะเป็นตัวเร่งผลักดันให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่ง QTCG จะได้รับอานิสงค์จากแผนกระตุ้นการก่อสร้างจากปีงบประมาณดังกล่าวด้วย โดยจะทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด 

ด้านนายกิตติชัย นาคะประเสริฐกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์  ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม (Joint Lead Underwriter) กล่าวว่า ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารแบบครบวงจร ระดับชั้นนำของประเทศ และด้วยประสบการณ์ของทีมผู้บริหารที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 23 ปี ทำให้ QTCG      มีฐานลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม และได้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งงานระบบให้กับโครงการชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน มาแล้วมากกว่า 1,000 โครงการ สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการทำงานอย่างมีระบบ ซึ่งจากทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์มืออาชีพ ทำให้บริษัทฯ สามารถรับงานในโครงการที่มีขนาดใหญ่ระดับ 500 - 600 ล้านบาทต่อโครงการได้ จนทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตด้านรายได้จาก Backlog ในมือกว่า 1,158 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีอัตราความสามารถในการทำกำไรสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 14% ในขณะที่คู่แข่งในอุตสาหกรรมมีค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่ 4-9% รวมถึงยังมีทรัพย์สินที่ซ่อนอยู่ (Hidden asset) ในบริษัทฯ ซึ่งยังไม่ได้สะท้อนในงบการเงิน ได้แก่ ทรัพย์สินรอการขาย ซึ่งมีราคาทุน 63.70 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินอยู่ที่ 115.88 ล้านบาท และใบอนุญาตประกอบกิจการบริหารสินทรัพย์ซึ่งยังไม่ได้ถูกประเมินมูลค่า 

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 - 2566 มีรายได้จากงานก่อสร้างและงานบริการ 625.48 ล้านบาท 905.50 ล้านบาท และจำนวน 751.72 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 23.43 ล้านบาท 101.76 ล้านบาท 22.03 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเครดิต ที่ดีกับสถาบันการเงินทำให้มีโอกาสในการได้รับการเสนอสินเชื่อจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความมั่นคงของบริษัทฯ ดังนั้นจึงมองว่าหุ้น QTCG เป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในอนาคต