Phones





BPP โรงไฟฟ้าสหรัฐฯ – จีน หนุนรายได้ไตรมาส 1/67 โต 81%

2024-05-16 14:44:23 200



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - BPP แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 มีรายได้รวม 6,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81% โดย EBITDA อยู่ที่ 1,512 ล้านบาท โดยรับแรงหนุนจากมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ Temple l และ Temple ll ในสหรัฐฯ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม และโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง ในจีน ที่เดินเครื่องได้ตามแผน
 
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 6,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,822 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 81% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน และมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 1,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 318 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ Temple l และ Temple ll ในสหรัฐฯ รวมถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Combined Heat and Power: CHP) และโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (SLG) ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณขายไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
 
ทั้งนี้ ผบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ และจีน โดยโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple l และ Temple ll ในสหรัฐฯ มีปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจำนวน 587.82 กิกะวัตต์ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่งผลให้รับรู้รายได้จำนวน 4,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 2,811 ล้านบาท ด้านโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในจีนรับรู้รายได้จำนวน 2,243 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตไปพร้อมกับรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่งและมั่นคงท่ามกลางความผันผวนของธุรกิจพลังงาน ควบคู่ไปกับการลงทุนเพื่อประสิทธิภาพและความยั่งยืนเพื่ออนาคต
 
ด้านธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานซึ่งบริษัทฯ ลงทุนผ่านบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน (Battery & Energy Storage System Solutions: BESS) โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บ้านปู เน็กซ์ และ เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์และส่งมอบแบตเตอรี่ให้กับลูกค้าในประเทศไทยมากกว่า 20,000ชุด โดยมีเป้าหมายการผลิตรวม 60,000 ชุดต่อปี อีกทั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่ดีพี เน็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์ยังได้ผลิตและส่งมอบแบตเตอรี่ชุดแรกให้กับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถบัสรายใหญ่ที่สุดในไทย
 
ขณะที่ ล่าสุดบ้านปู เน็กซ์ได้ยังได้นำเสนอโซลูชันพลังงานสะอาดที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนด้วยการเปิดตัวโครงการ ‘Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT’ เฟสที่สอง ณ อาคารจามจุรี สแควร์ ในรูปแบบป๊อปอัพคาเฟ่ที่มีระบบโซลาร์รูฟท๊อปผลิตไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่กักเก็บไฟฟ้าในตัว ด้านโครงการบริหารจัดการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี คาดว่าจะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในไตรมาส 4/2567
 
“BPP ในฐานะผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพระดับสากล ที่ยึดมั่นในการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน ด้วยจุดยืนในการส่งมอบพลังงานไฟฟ้าคุณภาพสู่สังคม (Powering Society with Quality Megawatts) ยังคงมุ่งสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งไปพร้อมกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น จากการดำเนินงานที่ผ่านมา BPP จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เราจึงมุ่งหวังที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมั่นคงต่อไป รวมทั้งมุ่งขยายห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ BPP ได้ประเมินการลงทุนในธุรกิจที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงผ่านกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจใน 4 ด้าน ได้แก่ 1. ขยายการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ CCGT ที่เน้นตลาดในสหรัฐอเมริกา 2. รักษาสมดุลของพอร์ตธุรกิจที่อยู่ในรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและตลาดไฟฟ้าเสรี 3. ขยายการลงทุนในโครงการ CCUS เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ และ 4. ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ที่จะช่วยเสริมความมั่นคงในการเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่ระบบนิเวศการใช้พลังงานที่ยั่งยืน ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอแก่ผู้ถือหุ้น และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างยั่งยืน” นายอิศรากล่าว