นิวส์ คอนเน็คท์ - ก.พลังงานศึกษาแก้กฎระเบียบการซื้อขายไฟฟ้า เล็งผลักดันให้การซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันหนุนไทยเป็นฮับพลังงานชี้โครงการยู-โซลาร์ สอดรับนโยบายกระทรวงพลังงาน พร้อมประกาศหลังเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน ก.พ.นี้

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานเปิดตัวโครงการยู-โซลาร์ (U-Solar) ของ ธนาคารยูโอบี (ไทย) ว่า โครงการยู-โซลาร์นั้นสอดรับกับนโยบายของกระทรวงพลังงานที่มีการผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ เพื่อส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โครงการโซลาร์ภาคประชาชน ภายใต้พลังงานเพื่อทุกคน “Energy for All” ดังนั้นนโยบายการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด และโครงการยู-โซลาร์จะเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบายให้ไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้า (ฮับ) ของภูมิภาคอาเซี่ยน

สำหรับหลักเกณฑ์รับซื่อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชนนั้นคาดว่าจะประกาศหลักเกณฑ์ได้ภายในเดือน ก.พ.นี้ และคาดว่าใช่เวลา 1เดือนในการพิจารณาผู้ยื่นขอเป็นผู้พัฒนาโครงการ อย่างไรก็ตามจากที่เทคโนโยลีด้านพลังงานและการผลิตไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรวมทั้งมีเทคโนโลยีการซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer to Peer trading กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างปรับปรุงแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าของประเทศหรือพีดีพี2018 เพื่อให้มีสัดส่วนพลังงานทดแทนเพิ่มสูงขึ้น และให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)​แก้ไขอุปสรรคให้สอดคล้อง เปิดให้ ผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์สามารถซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันในพื้นที่เฉพาะ หรือ Sandbox ได้ โดยจะต้องแก้ไขกฏหมายเรื่องโครงสร้างกิจการไฟฟ้าแบบ Enhanced Single-Buyer Model (ESB) ที่ให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้ารายเดียวเพื่อให้รายอื่นเข้ามาซื้อขายระหว่างกันได้ และยังเป็นพื้นฐานเชื่อมโยงไปถึงการซื้อขายไฟฟ้าในอาเซียน

นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตในภาคพลังงานหมุนเวียนนี้ เราเชื่อว่าโครงการยู-โซลาร์ จะสามารถเข้าไปช่วยสนับสนุนความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคธุรกิจและภาคประชาชน และเชื่อว่าจะสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตสีเขียวให้กับประเทศไทย

ทั้งนี้ ธนาคารยูโอบี (ไทย) ได้ร่วมกับ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพันธมิตรผู้รับเหมาออกแบบติดตั้ง (EPC Contractor) บางกอก โซลาร์ พาวเวอร์ และ เค.จี.โซล่า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไปที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในเรื่องการติดตั้งระบบ การจัดหาผู้รับเหมา และแพคเกจบริการหลัง การขาย ธนาคารยูโอบีสนับสนุนเงินทุนด้านค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์เพื่อติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และการบำรุงรักษา สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจในวงเงินสูงสุดถึง 45 ล้านบาท และสำหรับประชาชนทั่วไปมอบสิทธิประโยชน์ในการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 24 เดือน

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews