Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
SINO มั่นใจ 'ธุรกิจคลังสินค้า' ครึ่งปีหลังเด่น ลูกค้าใหม่เช่าพื้นที่เพิ่ม
MAI
ECF มองครึ่งปีหลังไฮซีซั่นธุรกิจ หนุนรายได้ปี 67 โต 15%
IPO
NCP เปิดฉากโรดโชว์ออนไลน์ ก่อนเข้าเทรด mai
บล./บลจ
GBS แนะกลยุทธ์ลงทุนช่วง SET ผันผวน
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
กรุงศรี วางกรอบเงินบาท 35.80-36.60 บ./ดอลลาร์ ลุ้นยอดค้าปลีกสหรัฐฯ
การค้า - พาณิชย์
เงินเฟ้อ มิ.ย.67 เพิ่ม 0.62% รวมครึ่งปีอยู่ที่ 0%
พลังงาน - อุตสาหกรรม
WEH โชว์ยอดจองหุ้นกู้ทะลุเป้า 431 ล้านบาท
คมนาคม - โลจิสติกส์
WICE รับใบประกาศนียบัตร CAC ตอกย้ำบริหารงานตามหลักธรรมภิบาล
แบงก์ - นอนแบงก์
TTB มอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ชูดอกเบี้ยสูง 4.10%
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
SAWAD คลอดหุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ ชูยีลด์สูงสุด 5.25% คอนเฟิร์มฐานะการเงินแกร่ง
SMEs - Startup
KXVC ผนึก AI Fund ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์สร้างสตาร์ทอัพด้าน AI
ประกันภัย - ประกันชีวิต
พรูเด็นเชียล ประเทศไทย แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ เดินเกมรุกช่องทางตัวแทน
รถยนต์
ย้ำกระแสฟีเวอร์! PT Songkhla Grandprix Street Circuit
ท่องเที่ยว
ASIA ปิดจ๊อบ! ขายหุ้นกู้ครั้งแรกเกลี้ยง 480 ลบ.
อสังหาริมทรัพย์
ส.ธุรกิจรับสร้างบ้าน แนะจังหวะสร้างบ้านใหม่ รับลดหย่อนภาษี ‘ล้านละหมื่น’
การตลาด
‘InfoComm Asia 2024’ เริ่มแล้ว รวมพลังแบรนด์ Pro AV ระดับโลก
CSR
KXVC ผนึก AI Fund ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์สร้างสตาร์ทอัพด้าน AI
Information
EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินแก่ WHA Group
Gossip
NER พื้นฐานสุดแกร่ง โบรกฯ ให้เป้า 6.80 บ.
Entertainment
SCB EIC แนะปรับวิธีออมเงิน นับถอยหลังสู่วัยเกษียณ
สกุ๊ป พิเศษ
ตลท.ปั้น 'คนรุ่นใหม่' เข้าสู่ตลาดทุนไทย
SCB WEALTH ล็อกเป้า 5 ตลาด Valuation ถูก น่าสะสม
2024-06-10 17:54:23
163
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - SCB WEALTH มอง 5 ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการจัดพอร์ตลงทุนครึ่งปีหลัง ประเมินตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เวียดนาม จีน H-Share ยุโรป และไทย จากValuation ค่อนข้างถูก และคาดอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นขยายตัวดีขึ้น
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 นางสาวเกษรี อายุตตะกะ CFP® ผู้อำนวยการกลยุทธ์การลงทุน SCB CIO ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยในงานสัมมนา Exclusive Investment Talk ภายใต้หัวข้อ “รู้ทันเศรษฐกิจโลก จัดสรรความมั่งคั่ง แบบมีเป้าหมาย ” ที่จัดขึ้นให้แก่กลุ่มลูกค้า High Net Worth Individuals (HNWIs) ว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 มี 5 ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อพอร์ตลงทุนได้แก่ 1.ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกอาจขยายตัวในอัตราชะลอลงมากกว่าที่หลายฝ่ายคาด, 2.ความไม่แน่นอนจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), 3.ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ – จีน, 4.ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และ 5.ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
โดย SCB CIO มองแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เกือบทุกประเทศถูกปรับประมาณการดีขึ้น แต่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าอดีต ขณะที่ปริมาณการค้าโลกมีแนวโน้มปรับลดลง จากความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะหากทรัมป์ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้วนำไปสู่การขึ้นภาษีทุกสินค้านำเข้าจากจีนอย่างน้อย 60% และขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกที่ 10% จะส่งผลกดดันโมเมนตัมการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ผ่านการค้าและห่วงโซ่อุปทานโลกที่จะแย่ลง
ทั้งนี้ มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในช่วงที่เหลือของปี 2567 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อชะลอลง แต่ยังปรับลดลงค่อนข้างช้า ด้านตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ส่วนเศรษฐกิจยุโรป ได้หลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) และปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ด้านเศรษฐกิจจีน มีแนวโน้มขยายตัวได้ตามเป้าที่ 5% โดยในระยะสั้นได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นรอบใหม่ แต่ในระยะกลาง ยังถูกกดดันจากการชะลอตัวเชิงโครงสร้างของภาคอสังหาฯ และการกีดกันทางด้านการค้าที่รุนแรงมากขึ้น สำหรับเศรษฐกิจไทย ถูกนักเศรษฐศาสตร์ปรับลดประมาณการ GDP ในปีนี้ลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี ตามการส่งออกสินค้าและการใช้จ่ายภาครัฐฯ ที่ชะลอตัว แม้ว่าจะมีแรงส่งจากการบริโภคภาคเอกชนและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวก็ตาม
ส่วนความไม่แน่นอนนโยบายการเงินของเฟด มีผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) สหรัฐฯ 10 ปี โดยก่อนหน้านี้ Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น แตะระดับสูงสุดนับจากต้นปี (YTD) ที่ 4.71% แต่หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่า ยังไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และความกังวลข้อพิพาททางการค้ากับจีน ทำให้ Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลง มาอยู่ที่ 4.34% แต่เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น PMI และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาดี ขณะที่ สมาชิกเฟด ยังคงท่าทีระมัดระวังต่อการลดดอกเบี้ยนโยบาย และรายงานการประชุมฯ รอบล่าสุดที่ค่อนข้างมีมุมมองการใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่า เฟดจะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปหรือไม่ ส่งผลให้ Bond Yield สหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นอีกครั้ง โดย ณ วันที่ 31 พ.ค. 2567 อยู่ที่ 4.50%
อย่างไรก็ตาม มองว่าเฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง รวม 0.50% ในปีนี้ ในช่วงเดือน ก.ย. และ ธ.ค. ขณะที่ตลาดคาดเฟดปรับลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้งเช่นกัน ทำให้หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยน้อยหรือช้ากว่าที่ตลาดคาด จะส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด เนื่องจาก ต้นทุนการระดมทุนของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจจะยังอยู่ในระดับสูงต่อ และกระทบกับกำไรของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอื่นๆ คาดว่า ธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2567 ธนาคารกลางยุโรป ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีตามคาดการณ์ เร็วกว่าธนาคารกลางส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปเป็นไตรมาสที่ 3-4/2567 ในส่วนของไทย คาดว่า การลดดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในช่วงไตรมาส 4/2567 ขณะที่ประเทศที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้แก่ ญี่ปุ่น ซึ่งได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว และมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ช่วงไตรมาส 3/2567 จากเงินเฟ้อที่เริ่มกลับมา และอินโดนีเซีย ได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อเดือน เม.ย.จากเงินรูเปียห์ที่อ่อนค่ามาก
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณา ผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึง 31 พ.ค. 2567 ทองคำ ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด อยู่ที่ 12.8% ตามด้วย หุ้นสหรัฐฯ อยู่ที่ 10.6% น้ำมัน WTI และ ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว (ไม่รวมหุ้นสหรัฐฯ) อยู่ที่ 7.5% และหุ้นตลาดเกิดใหม่ อยู่ที่ 3.5% อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาควบคู่กับสถิติในอดีต ไม่มีสินทรัพย์ประเภทใดให้ผลตอบแทนโดดเด่นติดต่อกันทุกปี โดยสามารถให้ผลตอบแทนติดลบหรือเป็นบวกได้ในบางปี ดังนั้น หากต้องการรับมือความเสี่ยงที่มีผลต่อการลงทุน เราแนะนำให้ผู้ลงทุนจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย (Asset Allocation) ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสรับผลตอบแทนค่อนข้างสม่ำเสมอในระยะยาว
สำหรับการจัดพอร์ตโดยการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ที่หลากหลาย( Asset Allocation )ในกรณีรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง ผู้ลงทุนสามารถจัดแบ่งเงินส่วนใหญ่ 75-85% ไว้ในพอร์ตหลักสำหรับการลงทุนระยะยาว (Core Portfolio) โดยควรมีการสำรองสภาพคล่อง พร้อมกระจายเงินลงทุนทั้งในตราสารหนี้ เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้พอร์ตลงทุน เพราะจากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่า ในช่วง 6 เดือน และ 12 เดือน หลังเฟด หยุดขึ้นดอกเบี้ย และหลังเฟด ลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ตราสารหนี้ของสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนรวมเป็นบวก รวมถึงลงทุนในตลาดหุ้นที่มีพื้นฐานดี มี Valuation ที่เหมาะสม ทั้งในตลาดพัฒนาแล้ว และตลาดเกิดใหม่ ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) รวมถึง สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ เพื่อกระจายความเสี่ยง ให้พอร์ตมีความมั่งคงและมีเสถียรภาพมากขึ้น
ขณะที่เงินอีกส่วน 15-25% สามารถแบ่งไปลงทุนผ่าน พอร์ตเสริมโอกาส (Opportunistic Portfolio) ในตลาดหุ้นที่เห็นโอกาสในช่วงเวลานั้นได้ ซึ่งในปัจจุบัน SCB CIO มองเห็นโอกาสอยู่ใน 5 ตลาด ได้แก่ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ตลาดหุ้นเวียดนาม ตลาดหุ้นจีน H-Share ตลาดหุ้นยุโรป และตลาดหุ้นไทย ที่ Valuation ค่อนข้างถูก ขณะที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์ คาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS growth) ของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในปี 2567 จะขยายตัวดีขึ้น
SINO มั่นใจ 'ธุรกิจคลังสินค้า' ครึ่งปีหลังเด่น ลูกค้าใหม่เช่าพื้นที่เพิ่ม
ตลท.ยกระดับการประเมินความยั่งยืน บจ. เข้มข้น
GULF ควบ INTUCH ชงผู้ถือหุ้นไฟเขียว 3 ต.ค.67 - NER พื้นฐานสุดแกร่ง โบรกฯ ให้เป้า 6.80 บ.
EA ร่วงติดฟลอร์วันที่ 2 ลงมาอยู่ที่ 6.45 บาทต่อหุ้น
GULF ประกาศควบรวม INTUCH เตรียมเทนเดอร์ฯ ADVANC และ THCOM
AQUA ต่อสัญญา 'ยูนิลีเวอร์' เช่าคลังสินค้า มูลค่า 1.7 พันล. - SPREME ซุ่มดีล M&A อัพโต 15%