Phones





กลุ่มปตท.มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ช่วยลดฝุ่นPM2.5

2020-02-06 19:10:09 1179




นิวส์ คอนเน็คท์ - กลุ่ม ปตท.เดินหน้าร่วมแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ลุยพัฒนาคุณภาพน้ำมัน B10 มั่นใจ มี.ค. 63 มีบริการครบทุกปั๊ม พร้อมส่งเสริมการใช้ B20 ให้มากขึ้น ตั้งเป้าขยายแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 77 สถานีในปี 63 และเพิ่มเป็น 300 สถานีในปี 67


เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลุ่ม ปตท. จึงได้ดำเนินธุรกิจโดยไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การผลิตน้ำมันไร้สารตะกั่วเป็นรายแรก จนถึงพลังงานทางเลือกซึ่งเป็นพลังงานสะอาด อาทิ ก๊าซธรรมชาติ แก๊สโซฮอล ตลอดจนพัฒนาไบโอดีเซล ซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงสะอาด เผาไหม้สมบูรณ์ ช่วยในการลดมลภาวะทางอากาศ


ด้านการส่งเสริมให้เกิดการใช้ไบโอดีเซล กลุ่ม ปตท. ได้ประกาศความพร้อมในการขยายสถานีบริการจำหน่ายน้ำมัน PTT UltraForce Diesel B10 ให้ครบทุกสถานีภายในเดือน มี.ค. 63 รวมถึงส่งเสริมการใช้ B20 ในกลุ่มรถขนาดใหญ่ เน้นการใช้ผ่านรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถเมล์ ขสมก. บขส. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะต่างๆ ทั้งนี้ จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดยสถาบันนวัตกรรม ปตท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทดสอบการใช้ B10 และ B20 เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้งานจริง พบว่า รถกระบะเครื่องยนต์ยูโร 4 ที่ใช้ไบโอดีเซล B10 สามารถช่วยลด PM 2.5 ได้ถึงร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับการใช้ไบโอดีเซล B7


ทั้งนี้ ยังได้การปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซล กลุ่ม ปตท. ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงโรงกลั่น เพื่อรองรับการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงยูโร 5 คุณภาพสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอนาคต เพื่อสอดรับตามแผนของนโยบายรัฐบาล


ด้านการใช้พลังงานทางเลือกสำหรับอนาคต กลุ่ม ปตท. มุ่งส่งเสริมเทคโนโลยีและสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยอุปกรณ์สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) และมีแผนที่จะขยาย EV Charging Station ในสถานีบริการน้ำมันโดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 77 สถานี ในปี 63 และเพิ่มเป็น 300 สถานี ภายในปี 67 รวมทั้งสนับสนุน Start Up ด้านยานยนต์ไฟฟ้า เช่น รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมศึกษาวิจัยความเหมาะสมของเทคโนโลยีระบบการบำบัด PM 2.5 ในการช่วยบรรเทาปัญหามลภาวะทางอากาศ นอกจากนี้ มีแผนดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะในปี 64 โดยมีมาตรการในการจัดการมลพิษทางอากาศด้วยระบบดักฝุ่นได้มากกว่าร้อยละ 95 พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปล่องระบายแบบต่อเนื่อง


กลุ่ม ปตท. ยังได้ดำเนินตามกรอบมาตรฐานสากล เพื่อให้กระบวนการผลิตของโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน และโรงปิโตรเคมี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการปฏิบัติการสู่ความเป็นเลิศ (PTT Group Operational Excellence) รวมถึงยังจัดทำ โครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล


พร้อมกันนี้ กลุ่ม ปตท. ยังได้เดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ จนขยายผลมาสู่การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ จ.ระยอง และศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยปัจจุบัน กลุ่ม ปตท. ได้ขยายพื้นที่สีเขียวเข้าสู่ตัวเมือง ผ่านการดำเนินโครงการ Our Khung Bangkachao ที่ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ภายใต้การกำกับโดยมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อให้คุ้งบางกะเจ้ากลับมามีความสมบูรณ์เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ผลิตออกซิเจนให้กรุงเทพ ถึงปีละ 9 เดือน และโครงการ Green Bangkok 2030 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่าย พัฒนาพื้นที่สีเขียวให้ได้ 30% ของพื้นที่เมืองภายใน 10 ปี ทำให้มีพื้นที่ร่มไม้มากขึ้น โดยต้นไม้ 1 ต้นมีศักยภาพในการดักจับจับฝุ่นละออง และมลภาวะทางอากาศ 1.5 กิโลกรัมต่อปี



>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews