Phones





FETCOชี้ดัชนีเชื่อมั่น3เดือนหน้าซบเซา

2020-02-11 12:51:40 1324




นิวส์ คอนเน็คท์ - FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนใน 3 เดือนหน้า ปรับตัวซบเซาครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังท่องเที่ยว-ความขัดแย้งระหว่างประเทศกระทบ พร้อมแนะหมวดการแพทย์ยังน่าสนใจลงทุน

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงอยู่ในเกณฑ์ซบเซาเป็นเดือนแรกในรอบ 4ปี โดยผลสำรวจพบว่านักลงทุนกังวลสถานการณ์การท่องเที่ยวและสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยจุดความเชื่อมั่นลงทุน ขณะที่นักลงทุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะการประกาศปันผลของบริษัทดทะเบียน นโยบายภาครัฐ และภาวะเศรษฐกิจในประเทศจากการลงนามทางการค้าของสหรัฐและจีน เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด


โดยความเชื่อมั่นนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ซบเซา หากพิจารณารายกลุ่มบัญชีบริษัหลักทรัพย์ และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศลดลงมาอยู่ที่เกณฑ์ซบเซาจากเกณฑ์ทรงตัวในเดือนก่อน ขณะที่กลุ่มบัญชีนักลงทุนรายบุคคลเพิ่มขึ้นจากเกณฑ์ซบเซามาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว และกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่เกณฑ์ซบเซาเช่นเดิมในช่วงเดือนมกราคม ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯมีเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยช่วงต้นเดือน ดัชนีทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 1,600 จุด จากนั้นปรับตัวลดลงมากในระยะสั้นมาอยู่ที่ระดับ 1,550 จุด


จากปัจจัยความขัดแยังระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับผลดีจากการลงนามข้อตกลงการค้าชั้นที่ 1 ระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนีทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,600 จุดในช่วงกลางเดือน จากนั้นดัชนีเคลื่อนไหวลดลงค่อนข้างมากจากร่างพรบ.งบประมาณล่าช้าและปัญหาการแพร่ขยายของเชื้อไวรัสโคโรน่าในจีนและการห้ามนักท่องเที่ยวจีนกรุ๊ปทัวร์เดินทางไปยังต่างประเทศ โดยดัชนีฯ ลดลงมาอยู่ที่ 1,510-1,520 จุด ในช่วงปลายเดือน


ทั้งนี้หมวดธุรกิจที่นำสนใจมากที่สุด คือหมวดการแพทย์ (HELTH) และหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)


อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 2/2563 คาดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จะเบาบางลงจากยอดผู้ติดเชื้อที่ถึงจุดพีคแล้ว โดยจะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในช่วงดังกล่าว และจะทำให้ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ในช่วงดังกล่าวด้วย ซึ่งคาดว่าจะได้ปัจจัยหนุนจากการลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบล่าสุดที่ช่วยให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่าขึ้นไปมากกว่านี้


นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนของ พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ที่จะไม่ล่าช้าไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9 ต่อ 0 วินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หรือไม่โมฆะ คาดว่า หลังการผ่านพ.ร.บ.ฉบับนี้ในวาระที่สอง และสาม จะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการใข้ขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ และใช้จ่ายในโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงนำมากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนอีกด้วย


ทั้งนี้ประเมินว่าดัชนีหุ้นไทย หรือ SET Index จะกลับไปแตะ 1,600 จุด ในช่วงไตรมาส 2/2563 และทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 1,650 จุด ส่วน GDP ไทยในปี 2563 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2%-2.2%


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews