Phones





ปตท.ลั่นปรับลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นจะไม่เกิดขึ้น

2020-02-25 11:47:54 4085




นิวส์ คอนเน็คท์ - ปตท.ลั่นการปรับลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นต้องพิจารณาอย่างรอบครอบเชื่อจะไม่เกิดขึ้น แนะปล่อยลอยตัวราคา NGV หากรัฐยังสนับสนุนให้ใช้อยู่ พร้อมเตรียมนำเข้าLNG spot


เมื่อเร็วๆ นี้นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานย่อย ของคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม เสนอให้กระทรวงพลังปรับสูตรคำนวณราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นเพื่อปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น 50 สตางค์ต่อลิตร ว่า กรณีดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน และไม่เชื่อว่าจะเป็นไปตามที่มีข่าวออกมา เพราะเรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะธุรกิจน้ำมันเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขัน และวัดด้วยการแข่งขัน ซึ่งการแข่งขันแสดงถึงประสิทธิภาพของผู้ซื้อและผู้ขายที่จะอยู่ได้ในระยะยาว โดยการกำหนดราคาน้ำมันให้เหมาะสมกับคุณภาพก็จะทำให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดี ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ใช้น้ำมันอยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้กลางและสูง ดังนั้นตนเชื่อว่าการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นจะไม่เกิดขึ้นจริง


ส่วนความคืบหน้าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ตามนโยบายกระทรวงพลังงานที่เร่งให้นำเข้าแบบตลาดจร (spot) ในช่วงราคาถูก และเพื่อชะลอการผลิตจากแหล่งในอ่าวไทยนั้นขณะนี้ได้จัดทำแผนเสร็จแล้วโดยคาดว่าจะมีการนำเข้ารวมกับของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งหมด 2-5 ลำเรือในปีนี้ ซึ่งเป็นการนำเข้ามาเพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ 5.2 ล้านตันต่อปี ส่วนการยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขาย LNG (ฮับLNG) นั้นปตท.ยืนยันว่ามีความพร้อมจากที่มีศักยภาพของคลังLNG รองรับรวมมาบตาพุดเฟส3 แล้วอยู่ในระดับ 27 ล้านตัน พร้อมทั้งในการขนส่งทางท่อ และขนส่งโดยเรือขนาดเล็กซึ่งเมื่อต้นปีเริ่มทดลองตลาดส่งออกจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าไตรมาส3/63 นี้จะเริ่มส่งออกได้จริงในประเทศเพื่อนบ้านและจันตอนใต้


สำหรับธุรกิจก๊าซธรรมชาติยานยนต์ (NGV) อยู่ระหว่างเจรจากับภาครัฐ ซึ่งหากรัฐบาลต้องการสนับสนุนการใช้ NGV อยู่ก็ควรจะปล่อยให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพื่อให้เกิกการใช้ก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบัน ปตท.ต้องแบกรับภาระอยู่เพราะต้นทุนสูงกว่าราคาขายปลีกราว 0.80-1 บาทต่อกิโลกรัม โดยปัจจุบันราคาขายปลีก NGV อยู่ที่ 15.31 บาทต่อกิโลกรัม และยังรับภาระในส่วนของลดราคาให้รถสาธารณะให้ต่ำกว่า ราคาขายปลีดอีก 2 บาทต่อกิโลกรัมทำให้ ปตท.ต้องมีภาระอุดหนุน รถสาธารณะถึง 300 ล้านบาทต่อเดือน


สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) นั้นส่งผลต่อยอดขายน้ำมันอากาศยานและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะมีผลถึงในช่วงไตรมาส 2/63 หลังจากนั้นคาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนความร่วมมือพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า กับพันธมิตรจีนนั้น ต้องชะลอออกไปก่อนในช่วงนี้


 


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews