Phones





WEH ปลื้มกระแสตอบรับหุ้นกู้ รายใหญ่-สถาบัน แห่จองซื้อ

2024-11-04 18:00:52 164



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - WEH ปิดขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2567 กระแสตอบรับดี นักลงทุนสถาบัน และรายใหญ่ให้การตอบรับ 600 ล้านบาท เชื่อมั่นในแผนการดำเนินงาน กระแสเงินสดแข็งแกร่ง ไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ ชูศักยภาพการสร้างเติบโตต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ตามแผน ธุรกิจระยะ 5 ปี มุ่งเพิ่มรายได้แตะระดับ 13,000 ล้านบาทต่อปี
 
เมื่อวันที 4 พฤศจิกายน 2567 นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม อันดับ 1 ของไทย เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2567 ให้แก่นักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบัน มียอดจองรวมทั้งสิ้น 600 ล้านบาท จากความเชื่อมั่นในแผนการดำเนินธุรกิจที่มั่นคง ไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ ด้วยกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต สำหรับหุ้นกู้ชุดนี้ มีอายุ 2 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.15% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
 
“บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับจองซื้อหุ้นกู้ WEH ด้วยกระแสตอบรับที่ดีเสมอมา ตั้งแต่การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรก จนถึงหุ้นกู้รุ่นปัจจุบันที่ได้ทำการเสนอขายเป็นรุ่นที่ 4 ซึ่งบริษัทฯ ได้ดูแลผลตอบแทนได้ดีสม่ำเสมอ ไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระ ส่วนการระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดแผนการดำเนินงาน โดยบริษัทฯเตรียมขยายกิจการ เข้าลงทุนในโครงการใหม่ที่มีศักยภาพ รวมถึงการให้กู้ยืมเงินหรือชำระหนี้ภายในกลุ่มบริษัท และ เป็นเงินทุนหมุนเวียน มุ่งสร้างผลประกอบการแข็งแกร่ง” นายณัฐพศิน กล่าว
 
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเดินหน้าตามแผนการขยายธุรกิจ โดยมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมที่บริษัทเป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญ มีแผนการลงทุนในโรงไฟฟ้าแห่งใหม่รวมอย่างน้อย 10 โครงการ โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีศักยภาพ ตามแผนขยายธุรกิจระยะ 5 ปี ที่มุ่งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 1,500 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 717 เมกะวัตต์ เพื่อเพิ่มรายได้ไปที่ระดับ 13,000 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันปีละกว่า 10,000 ล้านบาท
 
สำหรับ WEH เป็นผู้บุกเบิกการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเชิงพาณิชย์รายแรกของไทย ที่มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจำนวน 8 โครงการ ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) โดยยังมี 6 โครงการที่ได้รับเงินส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ระดับ 3.5 บาท ต่อ กิโลวัตต์ (KW) ไปจนถึงปี 2570 – 2572 ภายใต้การบริหารจัดการ และการดำเนินงานในระดับสากล เมื่อรวมกับประสบการณ์ในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมพลังงานลม ทำให้บริษัทมีจุดเด่น ด้านผลประกอบการที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง