Phones





CIMBT ลุยธุรกิจ ‘Wealth management’ วางเป้ารายได้ โต20%

2024-12-12 21:35:46 171



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - CIMBT เดินหน้าลุย Wealth management ตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโต 20% เป็นผลมาจากการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ด้าน AUM ปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 4 แสนล้านบาท คาดปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน
 
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 นายติยะชัย ชอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Wealth & Preferred Segment ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth management) ของธนาคารในปีนี้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้า ทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ดีที่สุด ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ครอบคลุมการวางแผนมรดกสำหรับการส่งต่อให้รุ่นถัดไป โดยรายได้จากการบริหารความมั่งคั่งในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้สามารถเติบโตกว่า 35% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งในปี 2568 ธนาคารตั้งเป้ารายได้จากการบริหารความมั่งคั่งเติบโตราว 20%
 
ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้จากการบริหารความมั่งคั่งเป็นผลมาจากการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ และ การวางกลยุทธ์การจัดจำหน่ายสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้รายได้จากกลุ่มลูกค้าทั้งหมดของธนาคารเติบโตขึ้นมากกว่า 20% ตั้งแต่กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มีเงินลงทุนต่ำกว่า 1 ล้านบาท ไปจนถึงลูกค้า High net worth ที่มีเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ผลิตภัณฑ์เงินฝากยังเป็นผลิตภัณฑ์พื้นฐานสำหรับการบริหารความมั่งคั่ง โดยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าบุคคลในช่วง 10 เดือนแรกเติบโตมากกว่า 34% และธนาคารตั้งเป้าหมายเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าบุคคลในปี 2568 เติบโต 10%
 
โดยการเติบโตของเงินฝากออมทรัพย์ในปี 2567 มาจากการปรับผลิตภัณฑ์ และข้อเสนอตามที่ลูกค้าต้องการ เช่น CIMB Preferred Savings จ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 2.2% ใน 4 เดือนแรก สำหรับลูกค้าใหม่ที่มีเงินฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาท ถึง 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของเงินฝากของปีนี้ รวมทั้งในปีนี้ธนาคารยังได้ร่วมมือกับบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจประกันในช่วง 10 เดือนแรกของปีเติบโตกว่า 37% โดยธนาคารตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจประกันในปี 2568 เติบโตที่ระดับ 10-15%
 
“ปี 68 บทบาทการบริหารความมั่งคั่งของธนาคารจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยบริหารเงินลงทุนของลูกค้าในช่วงที่ตลาดมีความซับซ้อน และผันผวนมากขึ้น สำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ธนาคารได้คัดสรรกองทุนรวม หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง และผลิตภัณฑ์ประกันที่มีการคุ้มครองเงินต้น” นายติยะชัย ชอง กล่าว
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารได้ร่วมมือกับ Principal Asset Management ในการออกผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะพิเศษ คุ้มครองเงินต้นสำหรับลูกค้าที่ถือกองทุนจนครบกำหนด สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการขาดทุน ซึ่งสามารถระดมทุนได้มากกว่า 1,200 ล้านบาท ขณะเดียวกันสำหรับลูกค้าที่สามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น แต่ยังต้องการลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน และ รับรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง ทางธนาคารก็ได้มีความร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลกที่มีความรู้ และประสบการณ์ในการบริหารการลงทุนทั่วโลกเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ามีทางเลือก และ เครื่องมือสำหรับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดที่จะสูงขึ้นในปี 2568
 
ขณะที่ปัจจุบันธนาคารมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ(AUM) อยู่ที่เกือบ 400,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในปีนี้จะเติบโตราว 10% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็น เงินลงทุน 65% และ เงินฝาก 35% ซึ่งในปี 2568 ธนาคารตั้งเป้า AUM เติบโตกว่า 10% หรือเพิ่มขึ้นอีกราว 40,000 ล้านบาท