Phones





TMB ออกมาตรการช่วยลูกค้ากองทุนรวม

2020-03-26 15:54:09 269




นิวส์ คอนเน็คท์ – TMB ประกาศมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ถือกองทุนธนเพิ่มพูนและกองทุนธนไพบูลย์ของ บลจ.ทหารไทย อีสท์สปริง หวังช่วยลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19


เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด ธนาคารได้ออกมาตรการเพิ่มเติมให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมของบลจ.ทหารไทย อีสท์สปริง ภายหลังจากที่บลจ.ประกาศไม่รับซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์


โดยปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนการการถือหุ้นในบลจ.ทหารไทย อีสท์สปริง เพียง 35% แต่มีความต้องการที่จะดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักลงทุนรายย่อย จึงได้ออกโปรแกรมช่วยเหลือสำหรับนักลงทุนทุกคนที่ถือกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ ทั้งที่เป็นลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร หรือไม่ใช่ก็ตาม


ทั้งนี้ หากลูกค้ารายใดมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในระยะสั้น ก็สามารถนำหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าวมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อตามโปรแกรมช่วยเหลือกับธนาคาร ซึ่งธนาคารประเมินว่าโปรแกรมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่อาจมีสภาพคล่องตึงตัวในระหว่างที่รอ บลจ.ทหารไทย อีสท์สปริงดำเนินการขายตราสารคุณภาพดี ซึ่งได้กระจายการลงทุนอยู่ทั่วโลกเพื่อนำเงินลงทุนมาจัดสรรคืนผู้ถือหน่วย


อย่างไรก็ตาม บลจ.ทหารไทย อีสท์สปริง ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก ตลาดสินทรัพย์ทุกประเภทล้วนเผชิญแรงเทขายด้วยความวิตกหรือ Panic Sell ทั้งตลาดหุ้น ตลาดเงิน รวมถึงตลาดตราสารหนี้ ผลกระทบจาก Panic Sell ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ ซึ่งมีการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศในสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยเป็นการลงทุนในตราสารที่มีคุณภาพดีในกลุ่ม Investment Grade แต่เมื่อผู้ถือหน่วยขายคืนพร้อมกัน ในขณะที่มีแรงซื้อในตลาดค่อนข้างเบาบาง จึงส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ตกแรงและเร็วในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งไม่สะท้อนถึงคุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีที่อยู่ในพอร์ตกองทุนรวม


ทั้งนี้ เพื่อหยุด Panic Sell ดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญด้านตราสารหนี้ของ บลจ.ทหารไทย อีสท์สปริง ได้ดำเนินการปรับกลยุทธ์เพื่อบรรเทาแรงขาย โดยการชะลอระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน แต่วิธีดังกล่าวยังไม่สามารถชะลอแรงขายได้ จึงมีการประกาศไม่รับซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนใน 2 กองทุนข้างต้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองเงินลงทุนของลูกค้าไม่ให้เสียมูลค่าจากแรงเทขาย และรักษาผลประโยชน์ให้กับนักลงทุนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน โดยหลังจากนี้ บลจ.จะทยอยขายตราสารอื่นๆ ในพอร์ตให้ได้ราคาที่สมเหตุสมผลที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและนำเงินมาจัดสรรคืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews