Phones





“กรุงศรี ออโต้” งัดมาตรการพักหนี้ช่วยลูกค้า

2020-03-27 13:55:36 332




นิวส์ คอนเน็คท์ - กรุงศรี ออโต้ ขยายมาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ครอบคลุมลูกค้าในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และธุรกิจอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาเพื่อบรรเทาทุกข์ลูกค้าในสถานการณ์ฉุกเฉิน


เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรุงศรี ออโต้ ได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าสินเชื่อยานยนต์ทุกประเภทที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยให้พักชำระหนี้ได้สูงสุด 6 เดือน และปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวดลง สำหรับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม โดยสามารถแจ้งความประสงค์ตามเงื่อนไขที่กรุงศรี ออโต้ กำหนดได้ทันที ซึ่งในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ได้ดำเนินการรับเรื่องเพื่อพิจารณาไปแล้วกว่า 166,000 ราย


ล่าสุด จากมาตรการของรัฐบาลที่ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ต้องชะลอลงไปด้วย กรุงศรี ออโต้ จึงได้ขยายความช่วยเหลือลูกค้าที่สอดคล้องกับมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อจากธนาคารแห่งประเทศไทย ครอบคลุมลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบตามสภาพการณ์และความจำเป็นเป็นรายกรณีต่อไป


นอกจากนี้ กรุงศรี ออโต้ ยังได้เตรียมความพร้อมด้านระบบให้รองรับการช่วยเหลือลูกค้าอย่างทันท่วงที ทั้งในส่วนของ Krungsri Auto Call Center ซึ่งได้เพิ่มคู่สายโทรศัพท์ เพิ่มเจ้าหน้าที่ เกือบ 100 คน และปรับปรุงกระบวนการทำงานภายใน ให้สั้น กระชับ และยืดหยุ่นมากที่สุด เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงในส่วนของสาขากรุงศรี ออโต้ ทั่วประเทศ ซึ่งได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ ให้คำปรึกษาและให้บริการแก่ลูกค้าทุกรายทันที โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแจ้งความประสงค์ได้ที่ Krungsri Auto Call Center 02-740-7400 กด 3 หรือ กด 5 และสาขากรุงศรี ออโต้ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews