Phones





BAYส่องเงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่า

2020-03-30 16:10:24 273




นิวส์ คอนเน็คท์ – กรุงศรี ประเมินเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.45-32.95 มองตลาดเงินยังผันผวน แต่ตลาดพันธบัตรของไทยเริ่มมีเสถียรภาพ ขณะที่ไวรัสโควิด-19 สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง พร้อมลุ้นกนง.หั่นดอกเบี้ยลงอีกรอบ 0.25% แม้เครื่องมือด้านดอกเบี้ยเริ่มไม่มีประสิทธิภาพ


เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.95 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 32.59 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 15 เดือนครั้งใหม่ท่ามกลางการซื้อขายผันผวน โดยนักลงทุนขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 8 พันล้านบาท และ 1.31 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งภาพรวมของตลาดพันธบัตรไทยกลับเข้าสู่เสถียรภาพมากขึ้น


ทั้งนี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ เช่น ดัชนีภาคการผลิต และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค โดยมองว่าตัวเลขล่าสุดซึ่งบ่งชี้ว่ายอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดนั้นเป็นปฐมบทของตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศออกมานับจากนี้ซึ่งจะเริ่มสะท้อนความเสียหายจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ขณะที่ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ยังอยู่ในระดับสูงและจะส่งผลให้ตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวนต่อไปในระยะนี้


สำหรับปัจจัยในประเทศ กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การประเมินภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มหดตัวรุนแรงเนื่องจากการท่องเที่ยวและการส่งออกถูกฉุดรั้งจากการระบาดของไวรัส การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและการชะงักงันของห่วงโซ่การผลิตกระทบการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนอย่างมีนัยสำคัญ โดย กนง.ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปี 63 เป็นหดตัวมากถึง 5.3% คาดมูลค่าส่งออกติดลบ 8.8% และคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 1%


ทั้งนี้ กนง.สนับสนุนการแก้ปัญหาสภาพคล่องให้ตรงจุดและเห็นว่ามาตรการด้านการคลังควรเป็นกลไกหลักในการประคองเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม คาดว่ายังมีโอกาสสูงที่กนง.จะตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.50% ในไตรมาส 2/63 ควบคู่กับมาตรการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดมากขึ้น เนื่องจากกระสุน และเครื่องมือด้านดอกเบี้ยกำลังจะหมดประสิทธิภาพ


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews