นิวส์ คอนเน็คท์ – TOP ประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ แนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังซาอุฯ นัดประชุมด่วนกลุ่มโอเปก ขณะที่ IEA คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปี 63 จะปรับลดลงกว่า 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน ราคาน้ำมันจะต่ำกว่า 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักวิเคราะห์ของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 25-30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 31-36 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียเรียกประชุมฉุกเฉินกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งตลาดคาดว่ามีแนวโน้มจะกินเวลานานหลายเดือน อีกทั้งหลายประเทศทั่วโลกปิดเมือง และจำกัดการเดินทางของประชาชน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ขณะที่หลายประเทศประกาศพร้อมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น

พร้อมกันนี้ ตลาดคาดการณ์ผลของการเจรจาว่าซาอุดิอาระเบียอาจจะลดกำลังการผลิตลงที่ระดับ 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมี.ค. 63 ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐสื่อสารผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ได้มีการหารือกับรัสเซียและซาอุดิอาระเบียเบื้องต้นเพื่อหาหนทางในการรักษาระดับราคาน้ำมันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ตัดสินใจเรียกประชุมผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐที่มีต้นทุนการผลิตสูง เพื่อหารือถึงมาตรการของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือธุรกิจการผลิตน้ำมันดิบของประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามราคาในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันยังคงถูกกดดันต่อเนื่องหลังจากหลายประเทศประกาศปิดเมือง จำกัดการเดินทางของประชาชน งดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาทิ รัสเซีย อินเดีย เยอรมนี นิวซีแลนด์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา คาดว่าประชากรทั่วโลกกว่า 3 พันล้านคนถูกจำกัดการเดินทางและกักตัวอยู่บ้าน ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงอย่างหนัก และทำให้ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในระดับที่ต่ำกว่า 20 เหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี โดยล่าสุดสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปี 2563 จะปรับลดลงกว่า 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นการหดตัวของความต้องการใช้น้ำมันที่มากสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews