Phones





BAY เร่งช่วยลูกค้า SME ฝ่าวิกฤตโควิด-19

2020-04-09 14:33:50 279




นิวส์ คอนเน็คท์ – BAY ตอบรับนโยบายให้ความช่วยเหลือลูกค้า SME ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือนแก่ลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท และมาตรการเงินกู้ Soft loan แก่ลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง


เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มความรุนแรงและส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วน รวมทั้งผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยและเป็นกลุ่มลูกค้าที่กรุงศรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก


ทั้งนี้ ธนาคารจึงได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการ SME มาอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาผลกระทบและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า พร้อมตอบสนองนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน โดยธนาคารจะให้ความช่วยเหลือทั้งด้านการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน และการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องเป็นเวลานานถึง 2 ปี โดยขึ้นอยู่กับประเภทของลูกค้า


โดยสรุป มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มีดังนี้คือ มาตรการที่ 1 การพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน 63 ในส่วนของมาตรการที่ 2 คือการให้เงินกู้เพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่อง (Soft loan) สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยลูกค้าสามารถกู้เพิ่มได้สูงสุดไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 62 อัตราดอกเบี้ย 2% เป็นเวลา 2 ปี ไม่ต้องชำระดอกเบี้ย 6 เดือนแรก ซึ่งลูกค้าผู้ประกอบการ SME สามารถติดต่อผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือแจ้งขอรับมาตรการความช่วยเหลือได้ที่ “โครงการรับเรื่องจากลูกค้าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19” บนเว็บไซต์ krungsri.com



>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews