Phones





SCB เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิต

2020-04-14 16:52:37 280




นิวส์ คอนเน็คท์ – SCB เร่งช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ขานรับนโยบาย ธปท.ในการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิต ด้วยการออกมาตรการเสริมด้วยบริการ “ดีจัง แบ่งชำระรายเดือน” ดอกเบี้ย 12% ต่อปี ระยะเวลา 48 เดือน ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY หวังเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าภายใต้สถานการณ์วิกฤต


เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศชะลอตัว กระทบต่อธุรกิจและรายได้ของประชาชนในประเทศ ธนาคารจึงได้จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือลูกค้าและออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 63 ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต ธนาคารได้ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆได้แก่ ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจาก 10% เป็น 5% และมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย นานสูงสุด 6 เดือน


ขณะที่ล่าสุด ธนาคารได้เพิ่มเติมมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิต ขานรับและร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยในเดือนเมษายนนี้ ธนาคารจะนำเสนอบริการ “ดีจัง แบ่งชำระรายเดือน” (Call for ดีจัง) ดอกเบี้ยพิเศษ 12% ต่อปี ระยะเวลา 48 เดือน ผ่านโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน SCB EASY โดยธนาคารได้แบ่งกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบออกเป็นทางตรงและทางอ้อม ซึ่งพิจารณาจากอาชีพ รายได้ สถานที่ทำงาน ที่อยู่อาศัย และลูกค้าต้องไม่มีประวัติค้างชำระ


สำหรับภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลในครึ่งปีแรกของปี 63 คาดว่ายอดใช้จ่ายโดยรวมจะหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก ธนาคารจึงได้ปรับแผนธุรกิจโดยจะเน้นให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหา ผ่านมาตรการพักชำระหนี้สูงสุด 6 เดือน การลดอัตราชำระคืนขั้นต่ำจาก 10% เป็น 5% รวมถึงบริการ “ดีจัง แบ่งชำระรายเดือน” ดอกเบี้ย 12% ต่อปี เป็นระยะเวลา 48 เดือน โดยธนาคารจะเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคารให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจ และช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews