Phones





SCBโชว์Q1/63กำไร9.2พันล. - ทิ้งแผนซื้อหุ้นคืน

2020-04-20 14:07:07 300




นิวส์ คอนเน็คท์ – SCB ประกาศผลงานไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 9,251 ล้านบาท รับแรงหนุนจากการปรับพอร์ตสินเชื่อ และรายได้จากธุรกิจแบงก์แอสชัวร์รันส์ที่เพิ่มขึ้น 5 เท่าหลังการร่วมมือกับเอฟดับบลิวดี พร้อมเดินหน้าตั้งสำรองในระดับสูงเตรียมรับมือผลกระทบจากโควิด-19 ยกเลิกแผนซื้อหุ้นคืนวงเงิน 16,000 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/63 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 9,251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากรายได้รวมที่ขยายตัว 9% จากปีก่อน พร้อมกับที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง ขณะเดียวกันธนาคารได้ตั้งเงินสำรองสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน


โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 25,777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน เป็นผลจากกลยุทธ์ของธนาคารในการปรับพอร์ตสินเชื่อด้วยการเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง การปรับตัวลดลงของต้นทุนทางการเงิน และการรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นของพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามมาตรฐานบัญชีใหม่ อย่างไรก็ตาม ฐานรายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังคงได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง จากภาวะดอกเบี้ยขาลง การชะลอตัวของยอดสินเชื่อรวมในไตรมาส 1/63 และการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยภายหลังที่ธนาคารได้ขายหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตในปีที่ผ่านมา


สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 11,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมประเภท recurring ที่ปรับตัวดีขึ้น ในไตรมาส 1/63 รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งขยายตัว 31% จากปีก่อน เป็นจำนวน 2,022 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจขายประกันผ่านธนาคารเพิ่มขึ้น 5 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 3,159 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากความร่วมมือกับกลุ่มเอฟดับบลิวดีในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต


ทั้งนี้ การขยายฐานรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสนี้สามารถชดเชยผลกระทบของการคิดค่าธรรมเนียมแบบใหม่ตามแนวทางการกำกับดูแลของทางการเมื่อต้นปี และการชะลอตัวของปริมาณการทำธุรกรรมธนาคารในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 16,393 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีก่อน เป็นผลจากการไม่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องกับพนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ และการตัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตออกจากงบการเงินรวมภายหลังที่ธนาคารได้ขายหุ้นออกไป


อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 9,726 ล้านบาท ในไตรมาส 1/63 เพื่อรองรับหนี้ด้อยคุณภาพที่จะเพิ่มขึ้น รวมถึงให้สอดคล้องกับมาตรฐานบัญชีใหม่ในการประมาณการด้อยค่าของสินทรัพย์ตามวัฏจักรเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 63 โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารอยู่ที่ 3.17% ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับเพียงพอที่ 140%


ทั้งนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่จัดได้ว่าเป็นช่วงวิกฤต ที่มีความผันผวนและความไม่แน่นอนระดับสูงมากทั้งในตลาดการเงินและเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยที่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อใด คณะกรรมการธนาคาร จึงได้มีมติให้ยกเลิกโครงการซื้อหุ้นคืนของธนาคารในวงเงินไม่เกิน 16,000 ล้านบาทที่ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 63 เพื่อให้ธนาคารสามารถเข้าช่วยเหลือลูกค้าให้ก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่นี้ไปได้ และยังเป็นการทำให้ธนาคารมีความพร้อมในการขยายธุรกิจเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews