Phones





BAY โชว์กำไร7.03 พันล. หวั่นโควิดฉุดงบQ2/63

2020-04-22 14:32:27 250




นิวส์ คอนเน็คท์ – BAY ประคองผลงานไตรมาส 1/63 เติบโตฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19 โชว์ตัวเลขกำไร 7.03 พันล้านบาท เติบโต 9.3% โดยสินเชื่อยังขยายตัว 2.9% พร้อมมองปัญหาโควิด-19 จะเริ่มส่งผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นในไตรมาส 2/63 แต่พร้อมช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มในการฟื้นฟู


เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิจำนวน 7.03 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากไตรมาส 4/62 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าจะมีการรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้กรอบมาตรฐาน TFRS 9


โดยเงินให้ให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 2.9% หรือคิดเป็น 5.2 หมื่นล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 62 จากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของสินเชื่อเพื่อรายย่อย ในส่วนของสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลปรับลดลง 6.1% จากการชำระหนี้ตามฤดูกาลและปริมาณการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลง ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.94% เทียบกับ 3.52% ในไตรมาส 4/62 ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของต้นทุนทางการเงินและการเพิ่มสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์


สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 9.2% หรือ 869 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/62 ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เป็นผลจากการลดลงของกิจกรรมทางธุรกิจของลูกค้ารายย่อย อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 41.0% ปรับตัวดีขึ้นจาก 43.7% ในไตรมาส 4/62 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ระดับ 2.22% เทียบกับ 1.98% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 62 อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับ 159.1% เทียบกับ 163.8% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 62 และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 15.66%


อย่างไรก็ตาม แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 จะออกมาค่อนข้างน่าพอใจ ซึ่งสะท้อนถึงพอร์ตสินเชื่อที่สมดุลและการบริหารความเสี่ยงด้วยความรอบคอบระมัดระวัง ธนาคารคาดว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะรุนแรงมากขึ้นในไตรมาส 2/63 เนื่องจากการแพร่ระบาดได้ส่งผลกระทบอย่างมากทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน จากการหยุดชะงักของภาคการผลิตและรายได้ที่ลดลง


ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจและลดภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 24 มีนาคม และ 10 เมษายน 63 ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกเหนือจากมาตรการอื่นๆ ที่ได้ออกมาสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น การพักชำระหนี้เงินต้น หรือดอกเบี้ย การปรับลดการชำระดอกเบี้ย และการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ โดยธนาคารยังคงมุ่งมั่นในความพยายามให้การช่วยเหลือลูกค้ารวมถึงภาคสังคมและเศรษฐกิจ ตลอดเส้นทางการฟื้นฟูสู่สภาวะปกติ


 


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews