Phones





KTB แจ้งงบQ1/63 มีกำไร6,082ล.

2020-04-22 15:33:39 264




นิวส์ คอนเน็คท์ – KTB ประกาศผลงานไตรมาส 1/63 มีกำไร 6,082 ล้านบาท ลดลง 16.7% ตามลดลงของรายได้ดอกเบี้ย ขณะที่สินเชื่อยังขยายตัวได้ 1.7% พร้อมตั้งสำรองเพิ่มขึ้น หวั่นโควิด-19 กระทบภาวะเศรษฐกิจ


เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63 ธนาคารมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร (งบการเงินก่อนสอบทาน) เท่ากับ 6,082 ล้านบาท ลดลง 16.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง แม้ว่าสินเชื่อเติบโต 1.9% จากสิ้นปี62 และเพิ่มขึ้น 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่ดี


นอกจากนี้ ยังได้รับประโยชน์จากการปรับลดเงินสมทบกองทุนฟื้นฟู ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการปรับลด อัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 4 ครั้ง และอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อทั้ง MLR MOR และ MRR เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการที่ไม่มีรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากการได้รับเงินบางส่วนในการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนองจำนวน 3,899 ล้านบาท เหมือนกับช่วงไตรมาส 1/62 โดย NIM อยู่ที่ระดับ 3.17% ในส่วนค่าใช้จ่ายลดลง 16.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีค่าใช้จ่ายจากการขาดทุนของการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขาย ส่งผลให้ธนาคารมี Cost to Income ratio ที่ 44.2% ลดลงจาก 48.2% ในช่วงเดียวกันของปี 62


ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPLs Ratio-Gross) เท่ากับ 4.36% อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปี 62 อย่างไรก็ตาม ธนาคารพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ในการประมาณการถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและมีความไม่แน่นอน ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อ จึงได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 8,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราส่วน Coverage Ratio ณ 31 มีนาคม 63 ที่ 126.5% ด้านฐานะทางการเงินของธนาคารยังคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง (งบการเงินเฉพาะธนาคาร) เท่ากับ 14.39% และ 18.16% ตามลำดับ


ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลกของ COVID-19 ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อการดำเนินธุรกิจและทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง รัฐบาล กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนในทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน


โดยธนาคารได้ตระหนักถึงภารกิจสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นกลไกของภาครัฐ โดยได้ออกหลากหลายมาตรการในการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ การให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือน และดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ลูกค้าสามารถผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews