นิวส์ คอนเน็คท์ - “สนธิรัตน์” ชี้ ผู้สนใจยื่นขอเงินกองทุนอนุรักษ์กว่า 2 หมื่นล้านบาท ยันปรับขั้นตอนการพิจารณามีความโปร่งใส ไร้การเมืองแทรกแซง พร้อมเร่งดำเนินการอนุมัติกลาง มิ.ย.นี้หวังให้ทันดำเนินการตามกำหนด 1 ก.ค.63 ย้ำ! โครงการใดใช้เงินไม่ตามวัตถุประสงค์ โดนขึ้นบัญชีดำ

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดให้ยื่นโครงการเพื่อของบกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ว่า กระทรวงพลังงานเริ่มเปิดให้ยื่นโครงการเพื่อขออนุมัติเงินกองทุนอนุรักษ์ตั้งพลังงานแต่วันที่ 28 เม.ย.63 จนถึงสิ้นสุดในวันที่ 18 พ.ค. 63 นั้น มีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรต่างๆ ยื่นเสนอโครงการเพื่อของบกองทุนอนุรักษ์พลังงานเป็นยอดมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท

โดยขั้นตอนต่อไป เสนอให้คณะอนุกรรมการกลั่นกองที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เพื่อพิจารณาคัดเลือกโครงการให้อยู่ภายใต้งบ 5,600 ล้านบาท หลังจากนั้นนำเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในช่วงกลางเดือน มิ.ย.63 เพื่ออนุมัติโครงการ โดยมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการคัดเลือกแล้วเสร็จทันกำหนดเริ่มดำเนินโครงการในวันที่ 1 ก.ค.63

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการพิจารณาอนุมัติเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานในปีนี้ เป็นการดำเนินงานที่มีความโปร่งใสมากที่สุด ไม่มีการแทรกแซงจากนักการเมืองอย่างแน่นอน เนื่องจากมีการปรับขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือกใหม่ โดยนอกจากจะมีคณะอนุกรรมการกองทุน คณะอนุกรรมการกลั่นกองแล้ว ยังได้เพิ่มเติมคณะอนุติดตามโครงการ และคณะอนุกรรมการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพื่อติดตามโครงการและการใช้เงินกองทุน พร้อมกันนี้โครงการที่ได้รับการพิจารณาทางกระทรวงพลังงานจะนำเผยแพร่บนเว็บไซต์ของกระทรวงพลังงานต่อไป

โดยโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจะมีการติดตามประเมินผลทุกปีหากโครงการของหน่อยงานใดมีการนำเงินไปใช้ไม่เกิดประโยชน์ต่อชุมชนก็จะถูกขึ้นบัญชีดำ “แบล็คลิสต์” (Blacklist) ไม่สามารถของบกองทุนอนุรักษ์พลังงานได้อีก ทั้งนี้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานนั้นจะเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่เกิดจากผลกระทบโควิด-19 เพื่อให้เกิดการจ้างงานในชุมชนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews