นิวส์ คอนเน็คท์ – แบงก์พาณิชย์ไม่รอช้าประกาศหั่นดอกเบี้ยเงินกู้ตามกนง. BBL นำทัพลดดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง 3 ประเภท หวังช่วยลดภาระด้านต้นทุนการเงินให้ลูกค้า ด้าน SCB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับต่ำสุดของระบบ พร้อมเสริมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้และซอฟท์โลนแก่ลูกค้า ขณะที่ BAY หั่นดอกเบี้ยเงินกู้ตอบสนองนโยบายธปท.
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ 3 ประเภท ลงเหลือต่ำสุด 5.25% โดยอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เหลือ 5.25% อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เหลือ 5.875% และอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เหลือ 5.75% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.63 เป็นต้นไป
โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนกลไกภาครัฐ และให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการและประชาชนในเรื่องการลดต้นทุนด้านอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการช่วยกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวมในช่วงที่มีความเปราะบางทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ โดยที่ผ่านมาธนาคารได้ให้การดูแลและให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการให้มีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจและรักษาการจ้างงาน และช่วยเหลือประชาชนในการลดภาระทางการเงิน โดยเฉพาะการสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ขณะที่นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า จากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มทยอยเข้าสู่ช่วงสภาวะปกติ เพื่อเร่งการฟื้นตัวของฐานะการเงินในภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนให้กลับมาโดยเร็ว ธนาคารจึงได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบภาระต้นทุนดอกเบี้ยของลูกค้าโดยเร่งด่วน และถือเป็นการลดดอกเบี้ยติดต่อกันต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนด้านสภาพคล่องให้แก่ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด Covid-19 ในหลายเดือนที่ผ่านมา
โดยอัตราดอกเบี้ย MLR ปรับลดจาก 5.375% เป็น 5.25% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในระบบธนาคาร อัตราดอกเบี้ย MOR ปรับลดลงจาก 6.095 % เป็น 5.845% และอัตราดอกเบี้ย MRR ปรับลดลงจาก 6.345 % เป็น 5.995 % ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดในระบบธนาคาร โดยคาดหวังว่าการลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าสินเชื่อรายย่อยมีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และช่วยให้ลูกค้าสามารถก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้ในที่สุด ซึ่งนอกจากมาตรการลดดอกเบี้ยแล้ว ธนาคารยังสนับสนุนแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ และการให้สภาพคล่องเพิ่มเติมผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบด้วย
ด้านนายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY กล่าวว่า กรุงศรีพร้อมสนับสนุนนโยบายทางการเงินของภาครัฐผ่านกลไกการทำงานของธนาคาร เพื่อลดผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจและภาระต้นทุนดอกเบี้ยของลูกค้าอันเนื่องมาจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และปัจจัยลบที่ตามมา ดังนั้น กรุงศรีจึงปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR, MOR และ MRR ลงอีก หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อไปแล้ว 3 ครั้ง นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19
โดยหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ส่งผล อัตราดอกเบี้ย MLR ปรับลดลงจาก 5.83% เป็น 5.58% อัตราดอกเบี้ย MOR ปรับลดลงจาก 6.30% เป็น 5.95% และอัตราดอกเบี้ย MRR) ปรับลดลงจาก 6.30% เป็น 6.05% โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่ดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.63 เป็นต้นไป
>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews