นิวส์ คอนเน็คท์ - กฟผ. ส่งแผนเจรจาโรงไฟฟ้า SPP เลื่อนจ่ายไฟเข้าระบบช่วงปี 63-64 ให้ กกพ. พิจารณารับมือโควิด-19 ฉุดความต้องการใช้ไฟลด ขณะที่ปริมาณสำรองไฟฟ้าเกิน 35% เผยยังต้องรอรัฐกำหนดนโยบายต่อ

เมื่อเร็วๆ นี้ นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าแนวทางเจรจาผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก หรือ SPP (กำลังผลิต 10-90 เมกะวัตต์) ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ตามแนวทางของภาครัฐ เพื่อบริหารจัดการไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงในปี 63 จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ทาง กฟผ.ได้ส่งแผนแนวทางปฏิบัติให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาแล้ว โดยขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะให้ กฟผ.ดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งเข้าใจว่า กกพ.จะต้องนำข้อมูลต่างๆ ไปหารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน เพื่อขอแนวนโยบายข้อปฏิบัติต่างๆ ก่อน

โดยแนวทางในเบื้องต้นที่ กฟผ.นำเสนอต่อ กกพ.ไปนั้น จะแบ่งเป็น 2 เรื่องหลัก คือ 1. การเจราขอให้โรงไฟฟ้า SPP ที่มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ในช่วงปี 63-64 เลื่อนกำหนด COD ออกไป 1-2 ปี ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ และ 2. การเจรจาขอให้เลื่อนกำหนด COD ออกไปนั้น ผู้ผลิตไฟฟ้าSPP จะมีผลกระทบอย่างไร และมีข้อแลกเปลี่ยนให้รัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือ หรือ ชดเชยผลกระทบอย่างไร

อย่างไรก็ตาม จากการเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้า SPP เบื้องต้นพบว่า เอกชนผู้ผลิตไฟฟ้าหลายรายพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ แต่ยังมีข้อกังวลของผลกระทบหากจะต้องเลื่อนกำหนด COD โรงไฟฟ้าออกไป เช่น ผลกระทบด้านการเงิน ภาระการชำระดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน ซึ่งรัฐจะมีแนวทางเข้ามาช่วยบรรเทาผลกระทบได้อย่างไร ทั้งนี้ ต้องหาข้อสรุปว่าจะเลื่อน COD โรงไหนออกไปบ้าง เพราะต้องรอให้รัฐเคาะแนวนโยบายออกมาก่อน

สำหรับสถานการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า ล่าสุด ในช่วงปลายเดือน พ.ค. 63 พบว่า ดีมานด์การใช้ไฟฟ้าเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น หลังจากรัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ยอดการใช้ไฟฟ้าที่เคยลดลงไปถึงระดับ 10% ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดหนัก โดยปัจจุบันอัตราการใช้ไฟฟ้าลดลงเหลือประมาณ 7-8% ทำให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าอยู่ที่ระดับประมาณ 35% ยังอยู่ในระดับสูงหลังปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์ในช่วงที่รัฐผ่อนคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 ต่อไป

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews