Phones





SCB ลุยNew Normal ผุดฟู้ดเดลิเวอรี่“Robinhood”

2020-06-08 17:34:06 509




นิวส์ คอนเน็คท์ – SCB สร้างวัฒนธรรมองค์กรรูปแบบใหม่ให้เป็นองค์กรตัวเบา ต่อยอด Digital Transformation พร้อมเปิดตัวภารกิจแรก แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย ภายใต้ชื่อ “Robinhood” โดยไม่เก็บค่าจีพี ไม่มีชาร์จเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยที่ เริ่มให้บริการปลาย ก.ค.นี้


เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า วิกฤตการณ์โควิด19 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายอุตสาหกรรม ธนาคารได้เห็นการหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเริ่มเห็นขนาดของปัญหาและลูกค้าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยธนาคารได้มีการเข้าดูแลลูกค้าอย่างเร่งด่วน เพื่อลดภาระของลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งดำเนินการผ่านมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้าเป็นจำนวนหลายแสนราย รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อเป็นการเยียวยาลูกค้า โดยเป็นการทำงานคู่กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อช่วยดูแลคนไม่ให้ตกงาน


อย่างไรก็ตาม ธนาคารเชื่อว่าวิกฤตโควิด19 จะยังไม่จบ และต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าที่เศรษฐกิจจะกลับแข็งแรงเหมือนเช่นในอดีต ดังนั้น ธนาคารจึงใช้เวลาดังกล่าวมาเป็นโอกาสในการพัฒนาองค์กรและเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผ่านยุทธศาสตร์ “SCB New Normal” ซึ่งจากรากฐานที่แข็งแรงจากการทำ Digital Transformation ทำให้ธนาคารมีขีดความสามารถในการเป็นองค์กรที่มีความตัวเบา และสามารถกำหนดรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) การปรับต้นทุนการให้บริการ แนวทางการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Engagement) การให้บริการกับลูกค้าในทุกๆเซ็กเมนต์


นอกจากนี้ ธนาคารยังได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์และบริการ การสร้างคุณค่าใหม่ (Core Value) โดยมีความเข้าใจ หรือ Empathy เป็นแกนหลัก เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นและสำเร็จ และที่สำคัญ คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรและวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ (New Way of Work) ที่มีความคล่องตัว รวดเร็ว ทำงานจากที่ไหนก็ได้ (SCB work from anywhere) กล้าที่จะลองผิดลองถูกเพื่อนำผลไปปรับปรุงและพัฒนาจนได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่จะนำพาองค์กรให้สามารถฝ่าคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงได้


ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น ธนาคารให้ความสำคัญต่อบทบาทหน้าที่ที่มีต่อลูกค้าและสังคม ด้วยการมุ่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าในทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (SME) เพื่อบรรเทาปัญหาและความเดือดร้อนในส่วนที่ธนาคารสามารถทำได้อย่างเต็มความสามารถ โดยมาตรการช่วยเหลือทางด้านสินเชื่อ การพักหนี้ หรือการลดดอกเบี้ย เป็นการช่วยเหลือในระยะสั้น (short-term solution) ที่ช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าผ่านช่วงเวลายากลำบาก


นอกจากนี้ ธนาคารยังได้คิด long-term solution โดยการผนึกความสามารถทางด้านเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับวิถีองค์กรรูปแบบใหม่เพื่อช่วยเหลือลูกค้า สังคมและประเทศชาติ โดยพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาในเวลาเพียง 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “Robinhood” (โรบินฮู้ด) แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย โดยไม่เก็บค่าจีพี ไม่มีชาร์จเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยที่ต้องเจอเมื่อนำร้านขึ้นสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งค่าจีพีนับเป็น Pain Point หลักของผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กในปัจจุบัน



โดยธนาคารหวังว่า Robinhood จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยกลุ่มร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงเชนร้านอาหารต่าง ๆ ตลอดจนกลุ่มลูกค้าและคนขับ เพื่อให้เกิดเป็น Ecosystem ที่แข็งแรงและยั่งยืนต่อไป โดยมีภารกิจแรก คือ การเป็นแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย มุ่งมั่นตั้งใจให้เป็นช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่หักค่าจีพีสำหรับร้านอาหารรายย่อย สมัครฟรี ไม่มีชาร์จเพิ่ม เจ้าของร้านได้เงินเร็วภายใน 1 ชั่วโมง รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ตั้งเป้าพร้อมเปิดให้บริการปลายเดือนกรกฎาคม 63


“แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ภายใต้ชื่อ “Robinhood” จะดำเนินการภายใต้บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส บริษัทน้องใหม่ในเครือเอสซีบี เท็นเอกซ์ โดยมีงบการลงทุนต่อปีประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่ง Robinhood ไม่ใช่เพียงแค่แพลตฟอร์มที่เชื่อมระหว่างคนกับร้านค้า แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมความสัมพันธ์ เชื่อมเศรษฐกิจ เป็นแพลตฟอร์มที่สื่อถึงการช่วยเหลือกัน การแบ่งปันความสุขซึ่งกันและกัน ซึ่งการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามยาก คือ จุดแข็งที่ทำให้คนไทย สังคมไทย และประเทศไทยสามารถรอดพ้นทุกวิกฤตที่เผชิญได้” นายอาทิตย์ กล่าว


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews