Phones





"ชาติชาย"อำลา"ออมสิน" - 5เดือนสินเชื่อพุ่ง2.2ล้านล้าน

2020-06-11 10:57:25 775




นิวส์ คอนเน็คท์ - "ออมสิน" ก้าวต่อไป GSB WAY : New Normal Solution เผย 5 เดือนแรก ปี 2563 มุ่งช่วยเหลือประเทศให้พ้นภัยโควิด ประคองลูกค้าให้ฟื้นตัว มีเงินให้สินเชื่อเฉียด 2.2 ล้านล้านบาท พร้อมส่งไม้ต่อผู้อำนวยการคนที่ 17


ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน คนที่ 16 แถลงข่าวในโอกาสอำลาตำแหน่ง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 มิ.ย.2563 โดยจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ พร้อมทั้งมีการส่งมอบตำแหน่งให้แก่ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการออมสิน คนที่ 17 โดยมีผู้บริหารและสื่อมวลชน ร่วมงานอย่างคับคั่ง



ดร.ชาตชาย กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลากว่า 5 เดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ทั้งนี้ ด้วยภารกิจหลักในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตามมาตรการของรัฐบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเยียวยาในโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” การดูแลลูกค้าของธนาคารฯ ด้วยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลา 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือน ต.ค.2563 มีผู้ที่ได้รับประโยชน์ ทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท รวม 3.10 ล้านราย วงเงินรวม 1.14 ล้านล้านบาท การให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบด้วย สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท และ สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินกู้สูงสุด 50,000 บาท ซึ่งมีผู้ยื่นกู้มากถึง 3,023,168 ราย ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน จากปกติที่จำนวนรวมยอดผู้ยื่นกู้นี้จะต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี โดยธนาคารฯ ได้อนุมัติไปแล้วเกือบ 600,000 ราย


นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน ยังจัดการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟท์โลน แก่สถาบันการเงิน น็อนแบงก์ ตลอดจนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของธนาคารออมสิน วงเงิน 150,000 ล้านบาท ได้มีผู้ยื่นกู้แล้ว 13,093 ราย วงเงินรวม 161,628 ล้านบาท ปัจจุบันได้อนุมัติแล้ว 108,960 ล้านบาท คงเหลือวงเงินที่กำลังทยอยอนุมัติอีก 41,040 ล้านบาท คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.2563 จะสามารถอนุมัติได้ทั้งหมด


จากสถานการณ์ดังกล่าวที่ธนาคารออมสินมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือตามมาตรการของรัฐบาล ทำให้ผลการดำเนินงาน 5 เดือนแรก ปี 2563 (1 ม.ค. – 31 พ.ค.2563) มีเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 2,158,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 5,646 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 5,039 ล้านบาท สูงกว่าแผนปี 2563 ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 19,552 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ จำนวน 1,892 ล้านบาท และรายได้อื่นอีก 2,313 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการปรับเปลี่ยนแผนงานให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการบริหารสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพตามสถานการณ์
ทั้งนี้ ธนาคารฯ มีเงินรับฝากฯ 2,478,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 65,597 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2,877,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 80,433 ล้นบาท ส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 62,077 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.88 ของสินเชื่อรวม


“ในโอกาสครบวาระการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารคนที่ 16 ในเดือน มิ.ย.นี้ ผมยังมุ่งหวังจะเห็นธนาคารออมสินเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มั่นคงและยั่งยืน อยู่เคียงคู่กับประเทศไทยและประชาชนชาวไทยตลอดไปอย่างสง่างาม โดยกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธนาคารออมสินที่จะส่งต่อให้ผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่ที่จะมารับช่วงการบริหารธนาคารออมสินในช่วงต่อไปนั้น จำเป็นต้องผลักดันการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 3 Banking ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ จากที่วันนี้มีลูกค้าไปใช้บริการสาขาน้อยลงและหันไปใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ในขณะที่ธนาคารออมสินมีจำนวนสาขาและบุคลากรจำนวนมากส่งผลต่อต้นทุนในการบริหารจัดการสูง ทำให้ต้องเร่งหารายได้ใหม่ๆ จากช่องทางสาขาและบุคลากรที่มี ลดต้นทุนการให้บริการหน้าสาขา ผลักดันลูกค้าให้ใช้ช่องทางดิจิทัลให้มากขึ้น และการเร่งสร้างแหล่งรายได้และผลตอบแทนจากการขยายสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อปรับโครงสร้าง portfolio ของธนาคารฯ” ดร.ชาติชาย กล่าว



ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ถึงแม้ผลการดำเนินงานจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีความโดดเด่นในทุกด้าน ประกอบกับความสำเร็จของผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ประชาชน และการได้รับรางวัลยกย่องจากหน่วยงานต่างๆ มากมาย ทั้งระดับประเทศ และระดับสากล แต่ธนาคารยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับองค์กรในทุกมิติอยู่อย่างต่อเนื่อง ให้พร้อมปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัลและสถานการณ์โควิด-19 ทั้งทางด้านพฤติกรรมลูกค้า เทคโนโลยี/นวัตกรรม กฎระเบียบ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสินนั้น ได้เตรียมความพร้อมขององค์กรสำหรับความท้าทายดังกล่าว โดยปรับกระบวนการให้องค์กรมีประสิทธิภาพและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าและประชาชนในทุกบทบาท ด้วยการวางกลยุทธ์ 3 Banking ในปี 2562 ที่ผ่านมา อันเป็นการเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน และขีดความสามารถทางการแข่งขัน (Traditional Banking) พร้อมสร้างสมดุลกับการดำเนินงานเชิงสังคมและตอบสนองนโยบายรัฐอย่างมีธรรมภิบาลในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความเข้มแข็ง (Social Development Banking) ควบคู่กับการยกระดับองค์กรด้วยการนำเทคโนโลยีทางเงิน มาพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงิน ให้มีความทันสมัย สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น (Digital Banking) ภายใต้โครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพ (Fundamental Capabilities) รวมถึงกับการปรับเปลี่ยนค่านิยมองค์กรเป็น “GSB WAY : วิถีออมสินยุคใหม่ พร้อมเติมเต็มสังคมไทย คิดกว้างไกลเหนือขีดจำกัด” ประกอบกับการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ติดตามผลการดำเนินงาน รับฟังปัญหาและความต้องการของลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม สื่อสารและส่งมอบภารกิจ รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงานด้วยตัวเอง รวมทั้งสิ้นกว่า 400 กิจกรรมต่อปี หรือคิดเป็นระยะทางถึง 150,000 กิโลเมตรต่อปี โดยหากรวมตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา รวมแล้วถึงกว่า 2,000 กิจกรรม หรือคิดเป็นระยะทางมากกว่า 750,000 กิโลเมตร ซึ่งทุกส่วนที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นกลไกสนับสนุนที่สำคัญ ในการผลักดันให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews