Phones





กรมเชื้อฯยันสำรวจปิโตรเลียม DKT-1ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม

2020-07-01 16:40:10 431



นิวส์ คอนเน็คท์ - กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ยืนยัน การกำกับดูแลการเจาะสำรวจปิโตรเลียม DKT-1 ตำบลด่านขุนทด ทุกขั้นตอนเข้มงวดตามมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม


เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ โฆษกกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้รับรายงานจากบริษัทผู้รับสัมปทานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทันที โดยขอยืนยันว่าในการดำเนินกิจกรรมด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทุกพื้นที่รวมถึงการเจาะสำรวจหลุม DKT-1 (ด่านขุนทด) ได้กำกับดูแลในทุกกิจกรรมที่บริษัทผู้รับสัมปทานดำเนินงาน


โดยได้จัดให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับดูแลในฐานที่ดำเนินโครงการดังกล่าว และเน้นให้ดำเนินการตามมาตรฐานทางด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมภายใต้กฎหมายปิโตรเลียมและกฎหมายอื่น ๆ อย่างเคร่งครัด ซึ่งในการดำเนินงานสำรวจ หลุมปิโตรเลียม DKT-1 (ด่านขุนทด) นี้ บริษัทผู้รับสัมปทานได้ดำเนินการเจาะหลุมสำรวจดังกล่าวตามแผนการดำเนินงานที่ส่งให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการเจาะสำรวจประมาณ 180 วัน นับจากวันที่ 30 เม.ย. 63 ที่ได้เริ่มการเจาะสำรวจ


การเจาะหลุมสำรวจปิโตรเลียม จำเป็นต้องใช้เครื่องปั๊มน้ำโคลนเพื่อช่วยในการดำเนินงาน ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวทำงานด้วยระบบเพลาหมุนจากเครื่องยนต์ ทำให้อาจมีเสียงดังจากการเดินเครื่องยนต์และต้องมี การเดินเครื่องสำหรับการดำเนินงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติสำหรับการเจาะหลุมปิโตรเลียมทั่วไป เนื่องจากการพักหรือหยุดการเดินเครื่องระหว่างการเจาะสำรวจนั้นอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อหลุมปิโตรเลียมได้


ทั้งนี้จากการตรวจวัดระดับความดังของเสียงในบริเวณดังกล่าวพบว่ามีค่าระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ประมาณ 65 เดซิเบล ซึ่งไม่เกินกว่าค่ามาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่กำหนดระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 70 เดซิเบล อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับทราบข้อร้องเรียนดังกล่าวแล้ว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ประสานให้มีการนำแผ่น fiber glass มาพันรอบท่อไอเสียของเครื่องยนต์ที่ส่งกำลังให้เครื่องปั๊มน้ำโคลนทำงานเพื่อลดการสั่นของท่อ ซึ่งจะช่วยให้ระดับความดังเสียงลดลงได้ รวมทั้งอยู่ระหว่างการหารือเพื่อหามาตรการอื่นเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเสียงที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่


พร้อมกันนี้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติยังได้กำชับให้บริษัทฯ ดำเนินการตามข้อกำหนดในมาตรการต่าง ๆ ที่ชี้แจงกับประชาชนในพื้นที่อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้บริษัทฯ ดำเนินการอื่น ๆ เพิ่มเติมตามความเหมาะสมในกรณีเกิดผลกระทบด้านต่าง ๆ กับประชาชนเพื่อให้การดำเนินการสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปตามแผนที่กำหนด ซึ่งในกรณีที่มีการสำรวจพบปิโตรเลียมเพียงพอต่อการพัฒนา ขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ สร้างรายได้ให้แก่รัฐสำหรับพัฒนาประเทศ แต่ในกรณีที่สำรวจไม่พบปิโตรเลียม ก็จะหยุดการดำเนินงาน และคืนพื้นที่สำรวจทั้งหมดแก่รัฐต่อไป


 


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews