Phones





ก.พลังงาน เตรียมปรับแผนพีดีพีใหม่

2020-07-14 21:03:05 429




นิวส์ คอนเน็คท์ - ก.พลังงานแย้มไตรมาส 4/63 เตรียมปรับแผนพีดีพีใหม่ หลังโควิด-19 ฉุดยอดพลังงานโลกหดตัวสุดในรอบ 70 ปี ขณะที่การน้ำมันของไทยลดลง 13.4% การใช้ไฟฟ้าลดลง 3.8% คาดราคาก๊าซผลิตไฟฟ้า 4 เดือนสุดท้ายลดลง


เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และการใช้พลังงานให้ลดลง ซึ่งสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ประเมินว่าการใช้พลังงานของโลกในปี 63 จะลดลงมากที่สุดในรอบ 70 ปี โดยประเมินว่าการใช้น้ำมันจะยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติในปีนี้ ส่วนภาพรวมการใช้ไฟฟ้าของโลกคาดว่าจะหดตัวลงร้อยละ 5

โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น ความต้องการใช้พลังงานปรับตัวลดลงมาก โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 63 (ม.ค.-พ.ค.) การใช้น้ำมันลดลงร้อยละ 13.4 การใช้ไฟฟ้าลดลงร้อยละ3.8 ซึ่งกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยพบว่า ช่วงหลังคลายล็อกดาวน์ ความต้องการใช้พลังงานเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่หากมีการระบาดรอบ 2 จะเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะเตรียมพร้อมสำหรับปรับแผนพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว 20 ปีฉบับใหม่ ( ร่างแผนพีดีพี 2021) ก็คงจะต้องปรับในไตรมาส 1/64


ขณะเดียวกัน ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทรวงพลังงานได้มีมาตรการต่างๆ ช่วยลดผลกระทบประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาเชื้อเพลิง การคืนงินประกันไฟฟ้า การเร่งก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน รวมถึงการสนับสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในส่วนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ลงทุนปี 63-65 รวม 1.1 ล้านล้านบาท ภายใต้นโยบายพลังงานสร้างไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ด้านนายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ยอดใช้พลังงานลดลงแน่นอนตามตัวเลขประมาณการณ์จีดีพีของสำนักงานคณะกรรรการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ลดลงกว่าร้อยละ5 ซึ่งจากโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ราคาพลังงานลดลง โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติเหลว LNG และราคาก๊าซอ่าวไทย/เมียนมา จะเป็นผลดี ทำให้ราคาก๊าซเฉลี่ยผลิตไฟฟ้าลดลงในรอบ 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews