Phones





BAY ประเมินเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง

2020-07-29 17:08:41 321




นิวส์ คอนเน็คท์ – BAY คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ ซื้อขายในกรอบ 31.40-31.75 ประเมินค่าเงินบาทผันผวนตามราคาทอง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเฟด โดยคาดหวังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25%


เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.75 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าเล็กน้อยที่ 31.70 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ท่ามกลางปริมาณธุรกรรมที่ค่อนข้างหนาแน่น โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 6.6 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท ขณะที่เงินยูโรแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง หลังสหภาพยุโรป (อียู) บรรลุข้อตกลงเรื่องกองทุนฟื้นฟูขนาด 7.5 แสนล้านยูโร นับเป็นก้าวสำคัญสู่เอกภาพทางด้านการคลังของยุโรป


ทั้งนี้ มองว่าตลาดจะให้ความสนใจการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 28-29 ก.ค. โดยนักลงทุนคาดว่าเฟดจะให้คำมั่นที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% ต่อไป และประเมินเศรษฐกิจในเชิงลบมากขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 ขณะที่ตลาดจะจับตาข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/63 ของสหรัฐฯ รวมถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการใช้มาตรการด้านการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่


ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนด้วยเช่นกัน หลังจีนสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเฉิงตูเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ซึ่งสั่งปิดสถานกงสุลของจีนในเมืองฮูสตัน สำหรับการเหวี่ยงตัวขึ้นของราคาทองคำสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากหลากหลายปัจจัยหนุน นำโดยการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริง (Real Yields) ของสหรัฐฯ จะเพิ่มความผันผวนให้กับค่าเงินบาทได้อีกทางหนึ่ง


สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้มุ่งหวังที่จะบิดเบือนค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าและการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเป็นไปได้ทั้ง 2 ทิศทางตามเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ผันผวน ทางด้านกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดการส่งออกเดือนมิ.ย.63 หดตัว 23.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าลดลง 18.05% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 1.61 พันล้านดอลลาร์


ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรก การส่งออกลดลง 7.09% ส่วนการนำเข้าหดตัว 12.62% และเกินดุลการค้า 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยประเมินว่าการส่งออกของไทยจะยังเผชิญแรงกดดันจากภาวะซบเซาของอุปสงค์ในประเทศคู่ค้า อีกทั้งการนำเข้าที่ฟื้นตัวช้ายังคงสะท้อนแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและการส่งออกที่อ่อนแอ


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews