Phones





ก.พลังงานร่วมใจเอกชนเร่งลงทุนอุตฯรถยนต์EV

2020-08-17 17:40:10 640



นิวส์ คอนเน็คท์ - ก.พลังงาน เร่งมาตรการส่งเสริมใช้รถยนต์ EV วางเป้าปี 73 มีจำนวนการใช้ 1.2 ล้านคัน ด้านเอกชนเร่งรัฐสรุปราคาชาร์จไฟฟ้า พร้อมให้สนับสนุนมาตรการด้านภาษี ยันอนาคตต้นทุนแบตเตอรี่ถูกลง 30% พร้อมเร่งขยายสถานีชาร์จใหครอบคลุม ดึงดูดคนหันมาใช้มากขึ้น


เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวในงานสัมมนา “ทิศทางยานยนต์ไฟฟ้าของไทย” ว่า แผนส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV )ในไทยนั้น กระทรวงพลังงานยังคงเป้าหมายส่งเสริมให้เกิดการใช้รถ EV 1.2 ล้านคันภายในปี 2573 ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือ PDP2018 และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านระบบไฟฟ้า สถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) และเทคโนโลยีรถ EV รวมทั้งกระทรวงพลังงานยังมีแผนระบบสายส่งไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid), ระบบมิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Meter) และแผนลดการใช้ไฟฟ้าประชาชนภาคสมัครใจ (Demand Response) ทั้งนี้ มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าจะมีรองรับรถ EV ในช่วงเปลี่ยนผ่านได้อย่างเพียงพอ ซึ่งอาจรองรับได้มากถึง 3 ล้านคัน




นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการสนับสนุนการใช้รถยนต์ EV ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาค่าบริการการชาร์จไฟฟ้า การนำเอาไฟฟ้าส่วนเกินมาป้อนให้กับรถ EV พร้อมกันนี้ ทาง สนพ.ยังได้ศึกษากรณีให้ผู้ใช้รถยนต์ EV สามารถขายไฟฟ้าส่วนเหลือจากแบตเตอรี่รถ EV ขายเข้าระบบผลิตไฟฟ้าได้ เพื่อให้ระบบแบตเตอรี่รถ EV กลายเป็นระบบสำรองไฟฟ้าช่วยเสริมความมั่นคงไฟฟ้าประเทศได้ในอนาคต โดยกระทรวงจะต้องศึกษาทั้งรูปแบบและกฎระเบียบรองรับแนวทางดังกล่าวต่อไป


ส่วนเทคโนโลยี สถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ปัจจุบันมีความก้าวหน้าขึ้นมาก สู่ระดับการเป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Charge) ซึ่งสามารถคำนวณได้ว่าควรจะชาร์จไฟฟ้าช่วงไหนเพื่อให้ได้อัตราค่าชาร์จไม่แพง รวมถึงแบตเตอรี่รถ EV สามารถทำเป็นโรงไฟฟ้าเสมือนได้ ด้วยการให้รถ EV สามารถปล่อยประจุไฟฟ้ากลับเข้าสู่ระบบผลิตไฟฟ้า เพื่อสร้างรายได้ให้ผู้ใช้รถ EV ได้อีกทางหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งกระทรวงพลังงานจะต้องนำมาศึกษารูปแบบและประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับประเทศต่อไป


นายระวี มาศฉมาดล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพลังงาน กล่าวว่า ท่ามกลางภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น อุตสาหกรรมรถยนต์ EV ยังคงมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยในอีก 30 ปีข้างหน้าอนาคตโลกมีแนวโน้มการใช้รถ EV มากถึง 60% ของจำนวนรถยนต์ทั้งหมด หรืออาจจะเร็วกว่านั้นหากราคาแบตเตอรี่รถ EV ลงลด เนื่องจากปัจจุบันราคาแบตเตอรี่คิดเป็น 40-50% ของราคารถ EV หากราคาแบตเตอรี่ลดเหลือเพียง 30% จะทำให้รถ EV มีราคาเท่ากับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในปัจจุบัน


ดังนั้น ไทยจะต้องรีบปรับ โดยภาครัฐจะต้องร่วมมือกับภาคเอกชนในการส่งเสริมสนับสนุนการใช้รถยนต์ EV สนับสนุนการลงทุนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ควบคู่กับการสนับสนุนการลงทุนผลิตรถยนต์ EV ในประเทศไทยให้มากขึ้น ซึ่งหากไทยไม่มีการปรับตัวโดยเร็ว ไม่มีมาตรการสนับสนุนที่ชัดเจน จะส่งผลให้ไทยเสียฐานการผลิตรถ EV ของอาเซียนให้กับประเทศเพื่อนบ้านเช่น เวียดนาม มาเลเซียและอินนีเซีย และสุดท้ายไทยต้องนำเข้ารถ EV จากต่างประเทศเข้ามาแทน ทำให้ไทยขาดโอกาสสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของตัวเองไป ขณะเดียวกัน การใช้รถ EV ยังช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้


นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า การส่งเสริมใช้รถ EV ควรวางแผนอย่างเป็นระบบ เริ่มด้วยการสร้างความต้องการใช้ให้เกิดขึ้นในประเทศ โดยการลดอุปสรรคด้านราคารถ EV ก่อน ด้วยการกำหนดปริมาณแบตเตอรี่ให้พอเหมาะกับความต้องการใช้ หากใส่มากเกินไปจะทำให้ราคารถแพงและประชาชนเข้าไม่ถึง รวมถึงต้องมีสถานีชาร์จไฟฟ้าเฉลี่ย 50 กิโลเมตรต่อสถานีทั่วประเทศ ซึ่งจากการคำนวณในเบื้องต้น การลงทุนสถานีชาร์จไฟฟ้า 20,000 สถานี ครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว ใช้เงินลงทุนเพียงหลักหมื่นล้านบาท หากเอกชนร่วมมือกันกับภาครัฐ และต้องชาร์จด้วยความเร็วประมาณ 15 นาทีเพื่อความสะดวก สบายการใช้รถยนต์ EV เป็นการดึงดูดให้ประชาชนมาใช้รถยนต์ EV กันมากขึ้น



>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews