Phones





กฟผ.เตรียมชงรัฐปลดโรงไฟฟ้าIPPเก่าเร็วขึ้น

2020-08-19 20:40:26 635




นิวส์ คอนเน็คท์ - กฟผ.เตรียมชงแผนลดปริมาณสำรองไฟฟ้าให้กระทรวงพลังงานพิจารณา ปลดโรงไฟฟ้าเก่าออกจากระบบเร็วขึ้นหลังมีปริมาณสำรองไฟฟ้าเกิน 40% ยันต้องสร้างโรงไฟฟ้าน้ำพอง โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ฯ ตามแผน


นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.และกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างเร่งศึกษาลดปริมาณสำรองไฟฟ้าลง หลังจากที่ในปัจจุบันพบว่าปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศไทยอยู่ในระดับสูงถึง 40% จากเกณฑ์ที่เหมาะสมควรอยู่ที่15% เนื่องจากผลกระทบจากไวรัสโควิด-19


เบื้องต้น ได้จัดเตรียมแผนไว้หลายแนวทางด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อไฟฟ้าระหว่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าอาเซียน หรือ Hub ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ โดยจะต้องมีการสร้างสายส่งไฟฟ้ารองรับเชื่อมต่อขายไฟฟ้าไปยังเมียนมา และกัมพูชา เป็นต้น รวมถึงการจัดทำโครงการดึงไฟฟ้าส่วนที่เหลือจากสถานีส่งจ่ายไฟฟ้า จัดทำเป็นห้องเย็น ใช้บริการเกษตรกรในพื้นที่เพื่อเก็บรักษาผักและผลไม้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนตามภาคต่างๆ โดยอาจจะเป็นเป็นลักษณะการใช้ไฟฟ้าฟรี หรือจัดเก็บค่าบริการในราคาต่ำ ก็ต้องพิจารณารายละเอียดต่อไป


ทั้งนี้ จากข้อมูลความต้องการใช้ไฟฟ้าในระบบของ กฟผ. ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ส.ค.63 พบว่า การใช้พลังงาน อยู่ที่ 512.2 กิกะวัตต์ – ชั่วโมง (GWh) ลดลง 2.55% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) อยู่ที่ 24,590 เมกะวัตต์ แต่หากพิจารณาเป็นรายภาค จะเห็นว่าในเดือน ส.ค.63 ภาคเหนือ การใช้ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 0.62% และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2.23% ขณะที่ภาคอื่นๆ การใช้ไฟฟ้ายังลดลง จากผลกระทบโควิค-19


อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐจะมีการพิจารณาเลื่อนแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะเกิดขึ้นตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP2018) หรือไม่นั้น ตามหลักการเป็นเรื่องที่ดำเนินการได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของภาครัฐว่าต้องการยึดตามข้อมูลปริมาณสำรองไฟฟ้าที่สูงเกินไป หรือจะยึดความมั่นคงไฟฟ้าตามภูมิภาค ซึ่งหากดูความมั่นคงด้านไฟฟ้าเป็นรายภาค ตามแผน PDP 2018 นั้น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้มีโรงไฟฟ้าในพื้นที่ยังไม่เพียงพอ ฉะนั้น ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องก่อสร้างโรงไฟฟ้าน้ำพอง และโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ตามแผนต่อไป


นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. เตรียมเสนอให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พิจารณาแนวทางลดสำรองไฟฟ้าโดยเจรจากับภาคเอกชน ประเภทโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ที่ปัจจุบันไม่ได้ถูกสั่งให้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้า เพราะเป็นโรงเก่ามีประสิทธิภาพต่ำ และจะหมดสัญญาเดินเครื่องประมาณปี 64-68 ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าเอกชน 1-2 แห่ง เช่น โรงไฟฟ้าบางยูนิตของ โรงไฟฟ้าราชบุรี และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. 1-2 แห่ง ซึ่งหากสามารถเจรจากับภาคเอกชนในการปลดระวางโรงไฟฟ้าเหล่านี้ได้เร็วขึ้นกว่ากำหนด จะช่วยลดภาระสำรองไฟฟ้าได้


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews