Phones





สมาคมธนาคารไทย หนุนโครงการ "DR BIZ"

2020-08-24 08:10:26 367




นิวส์ คอนเน็คท์ - สมาคมธนาคารไทย สนับสนุนโครงการ “DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง” ของ ธปท. หวังช่วยแก้ไขปัญหาด้านหนี้สินของลูกค้าอย่างรวดเร็วและเบ็ดเสร็จในที่เดียว พร้อมหาทางออกที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อ 50-500 ล้านบาท สามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ 1ก.ย.63 - 31 ธ.ค.64


นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง เป็นโครงการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับลูกค้าภาคธุรกิจที่มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลายราย เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาด้านหนี้สินของลูกค้าอย่างรวดเร็วและเบ็ดเสร็จในครั้งเดียวกัน โดยลูกค้าเพียงติดต่อกับสถาบันการเงินที่มีวงเงินกู้เพียงแห่งเดียว ซึ่งสถาบันการเงินจะประสานงานกัน เพื่อให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาผลกระทบตามความหนักเบาของลูกค้าแต่ละราย


สำหรับแนวทางในการช่วยเหลือลูกค้าภาคธุรกิจจะมี 3 มิติคือ การบูรณาการความช่วยเหลือร่วมกันจากทุกสถาบันการเงิน ช่วยให้ลูกค้าลดความซ้ำซ้อนในการติดต่อ การจัดส่งเอกสาร และการเจรจาแก้ไขปัญหา โดยได้ข้อยุติร่วมกันจากทุกสถาบันการเงิน รวมทั้งลูกค้าจะได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสม โดยสถาบันการเงินสามารถร่วมกันพิจารณาและวิเคราะห์ถึง Root Cause ของลูกค้าและหาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสมกับลูกค้ารายนั้นๆ เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อทำให้ธุรกิจอยู่รอดและฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายคือ โอกาสทางการเงินและทางธุรกิจ ในกรณีที่ลูกค้ามีศักยภาพและแผนธุรกิจที่ชัดเจน โครงการนี้เปิดโอกาสให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินต่างๆ ได้รับสินเชื่อเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงิน


ทั้งนี้ ภาคการธนาคารตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง และเข้าใจถึงความจำเป็นรีบด่วนในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง และหลายระยะ โดยมั่นใจว่าการช่วยเหลือลูกหนี้ภายใต้โครงการ “DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง” ที่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน จะสามารถช่วยเหลือลูกค้าได้ทันท่วงที โดยสถาบันการเงินจะมีการหารือเพื่อให้ได้แนวทางที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายต่อไป


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews