Phones





PEA อัดงบ2แสนล้านบาทลุยแผนลงทุน5ปี

2020-09-08 17:35:50 1071




นิวส์ คอนเน็คท์ – PEA อัดงบลงทุน 2 แสนล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี โดยส่วนใหญ่ลงทุนระบบสายส่งไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าย่อย ระบบสมาร์ทกริด รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า พร้อมลุยขยายสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าในปั้มบางจาก วางเป้าปี 64 ครอบคลุมทั่วประเทศ


เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA เปิดเผยในงานแถลงข่าววันคล้ายวันสถาปนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคครบรอบ 60 ปี ว่า แผนการลงทุน 5 ปี (63-67) ของ กฟภ.นั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 2 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนพัฒนาระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า และการลงทุนพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงาน ซึ่งการลงทุนพัฒนาระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าระยะที่ 2 นั้น เพื่อปรับปรุงเพิ่มขีดความสามารถในการจ่ายไฟฟ้า เช่น การก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้า การก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้าแรงสูง และสถานีไฟฟ้าย่อยมูลค่ารวม 77,000 ล้านบาท

การลงทุนในโครงการขยายเขตระบบไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ระยะที่ 2 ราว 6,565 ล้านบาท โดยมีหลักเกณฑ์ว่าจะต้องเป็นบ้านที่ไม่ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการบ้านจัดสรร ตึกแถว อาคารพาณิชย์ และต้องไม่อยู่ในเขตพื้นที่หวงห้ามใดๆ และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการขยายเขตฯ ไม่เกิน 75,000 บาทต่อราย, โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดินใน 74 จังหวัดมูลค่ารวม 4,300 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว 22 จังหวัด, การลงทุนโครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ในพื้นที่หัวเมืองใหญ่ ซึ่งได้มีการลงทุนนำร่องในพื้นที่พัทยาไปแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 64 การลงทุนในโครงการเปลี่ยน Electronic Meter ราว 20 ล้านเครื่อง


นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในโครงการจัดระเบียบสายสื่อสาร เพื่อดำเนินการนำสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานออก โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการเกี่ยวกับระบบสื่อสารมาใช้เสาไฟฟ้าของ กฟภ.ราว 14 ราย ซึ่งหากรายใดไม่มาแจ้งว่าใช้งานสายสื่อสารและไม่ให้ความร่วมมือในการจัดระเบียบทางกฟภ.ก็จะตัดสายทิ้ง เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย


พร้อมกันนี้ ยังมีแผนลงทุนพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 19,000 ล้านบาท อาทิ การเพิ่มขีดความสามารถการจ่ายไฟฟ้าโดยเพิ่มวงจร เพื่อรองรับโหลดที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนสายหุ้มฉนวนแรงสูง 2 ชั้นไม่เต็มพิกัด การติดตั้งอุปกรณ์ตัดตอนและระบบควบคุมสั่งการระยะไกล การก่อสร้างสายส่งระบบไฟฟ้า การก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพสถานีไฟฟ้า การปรับปรุงอุปกรณ์ภายในสถานีไฟฟ้า เป็นต้น ขณะเดียวกัน กฟภ.ยังมีแผนลงทุนติดตั้งระบบสมาร์ทกริดในพื้นที่ EEC กว่า 2 ล้านเครื่องอีกด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาแผนงาน


ทั้งนี้ เพื่อรองรับยุคดิจิตอล กฟภ.มีแผนขยายการลงทุนพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงาน โดยให้บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (pea encom) เป็นผู้ดำเนินการ โดยล่าสุดร่วมมือกับบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ขยายการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ายานยนต์ โดยในปี 63 คาดว่าจะดำเนินการติดตั้งได้ 62 สถานี ครอบคลุมพื้นที่ 45 จังหวัด แบ่งเป็นในสถานีบริการน้ำมันบางจาก 56 สถานี สำนักงานใหญ่ กฟภ. 6 สถานี และในปี 64 มีเป้าหมายขยายเพิ่มอีก 64 สถานี รวมเป็น 137 สถานี ครอบคลุม 75 จังหวัด


นอกจากนี้ ยังได้พัฒนา PEA VOLTA Application เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้า สำหรับใช้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่สามารถแสดงตำแหน่งและตรวจสอบพื้นที่ตั้งสถานี ผู้ใช้งานสามารถจองหัวจ่ายไฟฟ้า โดยผู้ใช้งานต้องเข้าใช้บริการภายใน 15 นาที โดยมีอัตราค่าบริการอัดประจุไฟฟ้า (รวมภาษีมูค่าเพิ่ม) ช่วง Peak 7.5887 บาท/หน่วย ช่วง Off- Peak 4.2061 บาท/หน่วย คาดว่าสิ้นปี 63 จะเปิดสถานีเพิ่มเติมอย่างน้อย 24 สถานี นอกจากนียังมีการพัฒนาแอฟพลิเคชั่นช่วยจัดการเรื่องการใช้ไฟฟ้า การให้บริการเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อป การให้บริการตรวจสอบซ่อมบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในอาคารแบบครบวงจร เป็นต้น


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews