Phones





ส่งออก ก.ค.62 บวก 4.28% - มั่นใจทั้งปีไม่ติดลบ

2019-08-21 13:54:03 308




นิวส์ คอนเน็คท์ - ส่งออกเดือน ก.ค.62 ขยายตัว 4.28% พลิกบวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือน อานิสงค์จากการส่งออกทองคำพุ่ง และผลกระทบจากสงครามการค้าเริ่มนิ่ง ทำให้ยอดส่งออกไปสหรัฐฯ และจีนเพิ่มขึ้น “พาณิชย์” ยังมั่นใจทั้งปีอัตราการขยายตัวเป็นบวกได้ แม้หลายหน่วยงานประเมินติดลบ

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนก.ค.2562 มีมูลค่า 21,205 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.28% ถือเป็นการขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่เดือนก.พ.2562 ที่ส่งออกเพิ่มขึ้น 5.37% และหลังจากนั้น มีอัตราการขยายตัวติดลบมาโดยตลอด ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 21,095 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.67% เป็นปรับขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือนนับจากเดือนม.ค.2562 ที่เพิ่มขึ้น 13.99% ทำให้เกินดุลการค้า 110 ล้านเหรียญสหรัฐ


เมื่อรวมยอดการส่งออก 7 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 144,175.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1.91% นำเข้ามีมูลค่า 140,122.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1.81% และเกินดุลการค้า 4,054 ล้านเหรียญสหรัฐ


สาเหตุที่ทำให้การส่งออกเดือนก.ค. กลับมาขยายตัว เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากราคาทองคำตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น จนทำให้มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงถึง 406% และผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน เริ่มนิ่ง สินค้าไทยสามารถส่งออกไปจีนและสหรัฐฯ เป็นบวกได้พร้อมกันทั้ง 2 ตลาด รวมถึงมีสินค้าดาวรุ่ง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สินค้าเกษตรแปรรูป และผลไม้ สามารถขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น


น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงคลัง ปรับลดเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 2562 เป็นขยายตัวติดลบ ถือเป็นข้อมูลและการประเมินของแต่ละหน่วยงาน แต่กระทรวงพาณิชย์ยังมั่นใจว่าตัวเลขส่งออกปีนี้เป็นบวกแน่นอน โดยหากการส่งออกขยายตัวที่ 0% การส่งออกเฉลี่ยในช่วง 5 เดือนที่เหลือ ต้องมีมูลค่าต่อเดือนอยู่ที่ 21,756 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอยู่ในวิสัยที่ทำได้ แต่ถ้าทำได้มากกว่านี้ การส่งออกก็จะขยายตัวเป็นบวก



อย่างไรก็ตาม การส่งออกในช่วง 5 เดือนที่เหลือ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามใน 3 ประเด็นใหญ่ ที่อาจทำให้ส่งออกไทยมีความผันผวน คือ สถานการณ์สงครามการค้าที่ยังไม่แน่นอนว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะขยายไปประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากจีนอีกหรือไม่ โดยเฉพาะยุโรป ราคาน้ำมันที่ยังต่ำกว่าปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และความผันผวนของค่าเงินบาท เนื่องจากต้องติดตามว่าผลจากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยว่าจะช่วยประคองไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าไปกว่านี้หรือไม่