นิวส์ คอนเน็คท์ - กฟผ.ซุ่มปั้นแบรนด์ร้านกาแฟ "คุณสายชล" เปิดบริการแล้วรวม 9 สาขา เร่งศึกษา​ 1-2 ปีก่อนสยายปีกรุกนอกพื้นที่ หวังต่อยอดขยายแฟรนไชส์​ คาดปริมาณการใช้ไฟฟ้าปีนี้ลด 3% มั่นใจมีเงินส่งเข้ารัฐ 45%

เมื่อวันที่​ 10​ กันยายน​ 2563​ นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ประเทศไทย​ (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.เริ่มลงทุนในการเปิดร้านกาแฟแบรนด์​ "คุณสายชล" มาตั้งแต่ปี 61 โดยในปัจจุบันน​ กฟผ.ได้เปิดร้านกาแฟดังกล่าวไปแล้ว 9 สาขาตามเขื่อนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้แก่ เขื่อนภูมิพล,​ สิริกิติ์,​ ศรีนครินทร์,​ อุบลรัตน์, สิรินธร,​ วชิราลงกรณ์,​ ลำตะคอง, รัชชประภา และที่สำนักงานใหญ่ บางกรวย

โดยกฟผ.มีแนวคิดต่อยอดขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษารูปแบบธุรกิจที่จะให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพราะกาแฟแต่ละชุมชนที่ได้จะต่างกัน คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ปี​ ซึ่งเมื่อชัดเจน​ อาจจะร่วมกับพันธมิตรเปิดในสถานีบริการน้ำมัน อย่างไรก็ตาม​ ร้านกาแฟของ​ กฟผ.จะมุ่งเน้นที่จะช่วยเหลือชุมชนที่ส่งเสริมชุมชนปลูกกาแฟ​ แล้วรวบรวมจำหน่าย นำสินค้ามาวางขายในร้าน การจ้างงานก็จะใช้คนในชุมชนส่วนหนึ่ง โดยในเบื้องต้น​ กฟผ.มีการส่งเสริมการปลูกกาแฟและรับซื้อเมล็ดกาแฟจาก ต.อมก๋อย ชุมชนรอบเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งทั้งหมดนี้คือธุรกิจเพื่อสังคม​ หรือ Social Enterprise

ขณะที่ภาพรวมปริมาณการใช้ไฟฟ้าปี 63 คาดว่าจะลดลงราว 3% เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลให้กำไรในปีนี้ลดลง 3% เช่นกัน เทียบกับปี 62 มีกำไรราว 30,000 ล้านบาท แต่เพียงพอในการส่งเงินเข้ารัฐได้ตามกำหนด 45% ของกำไร และยังมีเพียงพอสำหรับการจ้างงาน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพลังงานศึกษาแนวการจ้างงาน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีการจ้างระดับ 10,000 คน​ แต่จะทำงานอะไรนั้นอยู่ระหว่างการลงพื้นที่สำรวจเพื่อให้การจ้างงานมีขอบเขตที่ชัดเจน​ ส่วนงบการจ้างงานนั้นจะมาจาก​ กฟผ.ส่วนหนึ่ง​ และอีกส่วนหนึ่งกำลังพิจารณาอาจจะมาจากภาครัฐ ซึ่งแนวทางดังกล่าวคงจะไม่มีผลกระทบต่อฐานะการเงิน

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโซลาร์ลอยน้ำ 45 เมกะวัตต์ที่เขื่อนสิรินธร​ คาดว่าจะมีความล่าช้าออกไป 3 เดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ไม่สามารถรับมอบแผงโซลาร์เซลล์จากประเทศจีนได้ โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมจ่ายไฟฟ้า (COD) ได้ต้นปี 64 ขณะที่โครงการโซลาร์ลอยน้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์ 24 เมกะวัตต์​ ก็ต้องเลื่อนเปิดประมูลออกไปด้วยเพื่อศึกษาโครงการที่เขื่อนสิรินธรก่อนถึงจะดำเนินการในโครงการที่เขื่อนอุบลรัตน์ได้ ซึ่งเดิมจะต้องเปิดประมูลปลายปีนี้ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 กำลังผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผน ซึ่งจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 68 เร็วแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP2018) ที่กำหนดไว้ในปี 70 และปี 72

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews