Phones





กกพ.เล็งอัดฉีดเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าปี64วงเงิน 2.9 พันล.

2020-09-21 16:20:52 269




นิวส์ คอนเน็คท์ - กกพ.ขยายเวลายื่นขอเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าปี 64 กรอบวงเงิน 2.9 พันล้านบาท พร้อมปรับลดขั้นตอนหลักเกณฑ์การอนุมัติเร่งใช้งบหนุนเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งจ้างงานกว่า 30,000 ราย ส่วนงบปี 63 จำนวน 2.8 พันล้านบาทคาดใช้เงินได้ 80%


เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงานกกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ.ได้ขยายระยะเวลาการยื่นขอเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ หรือเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97(3) ของปี 64 ออกไปจนถึงสิ้นเดือน ต.ค.63 จากเดิมกำหนดไว้สิ้นเดือน ก.ย.63 เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยขั้นตอน หลักเกณฑ์การอนุมัติการของบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าใหม่ ส่งผลให้ขบวนการยื่นของบล่าช้า รวมทั้งการทำขบวนการประชาคมล่าช้าไปด้วย


ทั้งนี้เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าของปี 64 มีกรอบแผนงานเป็นวงเงินรวมราว 2,900 ล้านบาท ในจำนวนนี้ยังไม่รวมเงินกองทุนประเภท ค ราว 164 ล้านบาทรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนขั้นตอนและหลักเกณฑ์การขอนั้นจะยึดตามหลักเกณฑ์ในปี 63 เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงิน การกำกับ และตรวจสอบการใช้เงินกองทุนเพื่อยกระดับการดำเนินงานให้มีธรรมาภิบาลโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเปลี่ยนหน่วยดำเนินการที่เป็นกลุ่มบุคคล 3 คน ให้อยู่ในรูปแบบของนิติบุคคลที่มีการรวมกันของคน เช่น วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม สหกรณ์ และมูลนิธิ อย่างไรก็ตามการอนุโลมให้กลุ่มบุคคล 3 คน ยังสามารถเป็นหน่วยดำเนินการได้ภายในปีงบประมาณ 64 และจะปรับเปลี่ยมาเป็นรูปแบบของนิติบุคคลได้หมดในปีงบประมาณ 65


พร้อมกันนี้การสร้างและการกระจายการใช้เงินกองทุนให้มีมิติที่ชัดเจนตรงเป้าหมาย และเกิดความยั่งยืนมากขึ้น ผ่านการปรับปรุงขอบเขตการใช้เงิน และจัดกลุ่มใหม่ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบด้วยแผนงานหลัก 6 ด้าน ได้แก่ ด้านสาธารณสุขด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจชุมชน ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณูปโภคและด้านพลังงานชุมชน แต่ก็ยังมีแผนงานด้านที่ 7 ด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน ไว้รองรับโครงการชุมชนที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามแผนงานหลัก ซึ่งจะเน้นการจ้างงานในชุมชนรอบโรงไฟฟ้าทั่วประเทศราว 30,000 ราย


นอกจากนี้ยังได้มีการกระจายอำนาจและเพิ่มอำนาจการพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกโครงการชุมชน ซึ่งดำเนินการควบคู่กับการตรวจสอบความซ้ำซ้อนและการพัฒนาในภาพรวมของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหน่วยราชการที่ได้รับมอบหมายในพื้นที่ ที่จะทำให้การพิจารณาโครงการมีความคล่องตัวรวดเร็วมากขึ้น และไม่ต้องกลับมาสู่ชั้นของการพิจารณาจาก กกพ. ในส่วนกลางอีก โดยให้คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า(คพรฟ.) ซึ่งมีผู้ว่าราชการเป็นประธานเป็นผู้อนุมัติได้ทันที


ส่วนเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าปี 63 จำนวน 2,800 ล้านบาทปัจจุบันเบิกจ้ายไปแล้วราว 70% คาดว่าเมื่อสิ้นสุดเดือน ก.ย.63 จะมีการใช้เงินกองทุนฯได้ราว 80% โดยในจำนวนยอดที่เหลือจะยกยอดไปเป็นเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าปี 65


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews