นิวส์ คอนเน็คท์ - “ศักดิ์สยาม” สั่ง กทพ.เร่งประมูลใหม่ 2 สัญญางานก่อสร้างทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง หวังเปิดใช้บริการได้ทันปี 65 ขณะโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ช่วงทดแทน N1 และ N2 ให้ศึกษาเจาะอุโมงค์ลอดใต้ ม.เกษตร ลดค่าเวนคืน 2 หมื่นล้าน ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม

เมื่อเร็วๆ นี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คืบหน้าเรื่องการประมูลโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง ที่ยังเหลืออยู่ 2 สัญญา ขณะนี้ทราบว่าจะต้องดำเนินการประกวดราคาใหม่ โดยจะมีการเสนอรายละเอียดเข้าที่ประชุมคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (บอร์ด กทพ.) ภายในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อจะต้องเร่งดำเนินการให้เกิดการประกวดราคาใหม่ในเดือน มี.ค. 64 เพื่อผลักดันให้สามารถเข้าพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 64 แล้วเปิดให้บริการได้ในปี 65 ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง ที่ยังเหลืออยู่ 2 สัญญานั้นประกอบด้วย สัญญา 1 ระยะทาง 6.4 กิโลเมตร จากแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เซ็นทรัลพระราม 2 ราคากลาง 6,980 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 ระยะทาง 5 กิโลเมตร ช่วงโรงพยาบาลบางปะกอก9 - ด่านดาวคะนอง ราคากลาง 6,991 ล้านบาท ซึ่งต้องเร่งดำเนินการประกวดราคาใหม่

อย่างไรก็ตาม การประกวดราคาในครั้งแรกนั้น สัญญา 1 โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า CAN ประกอบด้วย บริษัท ไชน่าสเตทคอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่งคอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด และบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด และสัญญา 3 กลุ่มไชน่าเรลเวย์ - ซีวิล-บุญชัยเป็นเสนอราคาต่ำ โดยสาเหตุที่ต้องนำมาพิจารณาเปิดประกวดราคาใหม่ เพราะเอกชนมีการยื่นอุทธรณ์ผลประกวดราคา ประเด็นของคุณสมบัติ และผลงานของผู้รับเหมาที่เสนอราคาต่ำสุด

ส่วนความคืบหน้าโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ช่วงทดแทน N1 และ N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันออกในขณะนี้ กทพ. เตรียมเสนอเรื่องไปยังสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อขอเปลี่ยนแปลงมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ดำเนินโครงการN1และN2 โดยส่วนของN2ที่ไม่มีปัญหาจะดำเนินการไปก่อน ส่วนN1จะขอใช้รูปแบบดำเนินการโครงการเป็นตอนๆในส่วนที่ไม่มีปัญหาไปก่อน ขณะเดียวกันกทพ.ก็จะเจรจากับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าในส่วนที่จะผ่าน ม.เกษตร จะะสามารถดำเนินการในรูปแบบใดได้บ้าง โดยยึดหลักประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด รัฐประหยัดงบประมาณและไม่มีผลกระทบกับใคร

ขณะที่รูปแบบการดำเนินโครงการN1 ช่วงผ่าน ม.เกษตร นั้นมี 2 ทางเลือก คือ 1.ทำเป็นโดมครอบอยู่ด้านบนทางยกระดับ ซึ่งเป็นการออกแบบที่ดีที่สุดแล้วเพราะสามารถเชื่อมต่อกับ N2 ได้เลย และ2.สร้างอุโมงค์ทางลอด โดยวิธีการขุดอุโมงค์อยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ว่าจะออกแบบขุดอุโมงค์ลอดใต้ ม.เกษตร หรือจะขุดลอดใต้อุโมงค์แยก ม.เกษตร ซึ่งการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20,000 ล้านบาทในเรื่องของการเวนคืนที่ดิน เพราะต้องใช้พื้นที่ของเอกชนในการก่อสร้างจุดขึ้นลง ทั้งนี้ การขอเปลี่ยนแปลงมติ คจร.ดังกล่าว คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม คจร. ได้ในเดือน ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม การเร่งดำเนินโครงการ N1 และ N2 เพื่อแก้ปัญหานำเงินกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟัน(TFF) ที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยเร็วที่สุด เพื่อที่ กทพ.จะได้ไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยปีละประมาณ1,000 ล้านบาท

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews