Phones





SCBS ส่องเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตราสารหนี้

2020-12-22 16:43:31 1154




นิวส์ คอนเน็คท์ – SCBS มองกนง.ยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่บอนด์ยีลด์ไทยอายุสิบปีจะปรับตัวสูงขึ้นไปที่ 1.70% ในปี 64 ตามทิศทางยีลด์ทั่วโลกที่เป็นขาขึ้น คาดนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้าลงทุนในตราสารหนี้ไทยในปี 64 ราว 1-2 หมื่นล้านดอลลาร์


เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS CIO เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ตามที่ตลาดคาดไว้


โดยในครั้งนี้ โดยคาดว่า กนง. จะมีมองว่าเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นแต่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า และอาจให้มุมมองในเชิงระมัดระวังตัวมากขึ้นหลังเกิดการระบาดครั้งล่าสุดที่สมุทรสาคร การประสานงานระหว่างภาครัฐและการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจึงยังมีความจำเป็นอยู่มาก


ทั้งนี้ คาดว่าบอนด์ยีลด์ไทยจะไม่ผันผวนแรง เนื่องจากไม่ได้มีสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าด้วยระดับความเสี่ยงเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การที่ยีลด์พันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีขยับลงมาที่ระดับ 0.41% ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายและต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ชี้ว่านักลงทุนยังคงกลัวความเสี่ยง และสภาพคล่องในระบบยังอยู่ในระบบสูง


โดยเชื่อว่าถ้าเริ่มเห็นความคืบหน้าของการเปิดการท่องเที่ยวในที่สุด น่าจะทำให้เงินเหล่านี้กลับเข้าสู่ตลาดทุน และคงมุมมองเดิมว่ายีลด์สองปีจะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 0.75% ได้ในปลายปี 2021 ตามทิศทางของบอนด์ยีลด์โลก


ในส่วนของยีลด์ระยะยาว อายุ 10 ปี คาดว่าจะแกว่งตัวในระดับ 1.25-1.45% ไปจนถึงสิ้นปี และคาดการณ์ว่าในปี 2021 ยีลด์สิบปีไทยสามารถปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1.70% ได้ อย่างไรก็ดีโอกาสที่ยีลด์จะปรับตัวสูงขึ้นทันทีนั้นมีไม่มาก เพราะเงินบาทที่แข็งค่าจะทำให้บอนด์ไทยมีความน่าสนใจจากทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ


สำหรับแนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้าย มองการคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำของธปท.ไม่ได้ส่งผลกระทบกับมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ เพราะมีเพียงส่วนน้อยที่เข้าลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อนเก็งกำไรค่าเงิน และกว่าครึ่งเน้นลงทุนบอนด์ระยะกลาง มองว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อบอนด์ไทยในปี 64 ที่ระดับ 1-2 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ในฝั่งหุ้นไทยเชื่อว่าจะกลับมีแรงขายเล็กน้อยเพราะต้องปรับสัดส่วนการลงทุนใน Emerging Markets ใหม่เมื่อตลาดหุ้นจีนได้รับการเลือกเข้ามาในดัชนีมากขึ้น จึงอาจเห็นเงินทุนไหลออกอยู่


ขณะที่ทิศทางค่าเงินบาทนั้น เชื่อว่าธปท.จะแสดงความกังวลกับการแข็งค่าของเงินบาทที่เกิดขึ้นอย่างเร็วในช่วงนี้ แต่ไม่น่าจะมีนโยบายกำกับหรือแทรกแซงค่าเงินบาทในช่วงปีนี้ไปถึงปีหน้าได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทยถูกจัดเข้าสู่ลิสต์การเฝ้าระวังของกระทรวงการคลังสหรัฐ


อย่างไรก็ตาม มุมมองในอนาคต ประเมินว่าเงินบาทจะซื้อขายที่ระดับ 29.75-30.00 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีนี้ แต่ในปี 64 เชื่อว่าสกุลเงินเอเชียและเงินบาทจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่เงินดอลลาร์ก็มีโอกาสอ่อนค่าจากนโยบายการคลังในสหรัฐที่สูงกว่าประเทศอื่น และคาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าลงไปแตะระดับ 28.9 ภายในปลายปี 64


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews