Phones





SCBS CIO มองตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ฟื้นตัว

2021-01-26 14:25:14 396




นิวส์ คอนเน็คท์ – SCBS CIO ประเมินตลาดหุ้นสัปดาห์นี้มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างจำกัด รับ Sentiment เชิงบวกในระยะสั้น จากแนวนโยบายของ “โจ ไบเดน” ด้านนักลงทุนบางส่วนเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด-19


เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 นางสาวเกษรี อายุตตะกะ CFP® ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS CIO เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการของนายไบเดน และการที่นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสนอโดยนายไบเดน ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า คณะรัฐบาลชุดใหม่จะเร่งผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่


นอกจากนี้ ดัชนีฯยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย โดยดัชนีฯยังได้รับปัจจัยกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เยอรมนีจะขยายเวลาบังคับใช้มาตรการ lockdown ประกอบกับการที่ประธานธนาคารกลางยุโรปได้เตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นและการล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะใกล้


สำหรับตลาดหุ้นจีน (A-Share) ปรับเพิ่มขึ้น หลัง GDP ของจีน ในไตรมาส 4/63 ขยายตัว 6.5% ซึ่งดีกว่าในไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 4.9% รวมทั้งขานรับการที่ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบมูลค่า 2.78 แสนล้านหยวน ด้านตลาดหุ้นไทยปิดลบ ตามแรงขายนำในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พลังงาน และการเงิน รวมถึงข่าวการเตรียมปรับปรุงเกณฑ์เกี่ยวกับ Free float ที่เกี่ยวเนื่องกับการคำนวณดัชนีตลาดหุ้นไทย


ส่วนราคาน้ำมันดิบปิดลบเล็กน้อย โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการที่สำนักงานพลังงานสากล ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันดิบในตลาดโลกในปี 2021 ลง 280,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ราคาทองคำปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ


อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างจำกัด โดยยังคงได้รับ Sentiment ในเชิงบวกในระยะสั้น จากแนวนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้คณะบริหารของประธานาธิบดีไบเดน ที่จะเน้นมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 และนโยบายเรื่องการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19


นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากแนวโน้มที่ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายตามเติม และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯมีแนวโน้มจะยังไม่ส่งสัญญาณการลดหรือยุติมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) ในอนาคต รวมถึงการทยอยรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ และยุโรป ประจำไตรมาสที่ 4/63 ที่มีแนวโน้มออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์


โดยในสัปดาห์นี้ มีจำนวนของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ และยุโรป ที่รายงานคิดเป็น 43% และ 12% ของ Market cap ของในแต่ละตลาด อย่างไรก็ตาม ความกังวลการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ทางการหลายประเทศยังต้องคงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดต่อ รวมถึงนักลงทุนบางส่วนเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด-19


อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังจีนได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินรบไปยังน่านฟ้าใกล้ๆกับไต้หว้น รวมถึงข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ ตาม Valuation ที่ตึงตัวอย่างมาก และแนวโน้มการทยอยปรับเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี โดยประเด็นต่างๆข้างต้น สามารถกดดันให้ตลาดหุ้นโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews