Phones





PTTEP เข้าร่วมทุนแหล่งก๊าซธรรมชาติโอมาน

2021-02-01 14:34:38 479




นิวส์ คอนเน็คท์ - PTTEP ลงนามสัญญาซื้อขาย แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในรัฐสุลต่านโอมาน หนุนปริมาณการขายปิโตรเลียมได้ทันที สร้างการเติบโตในระยะยาวให้กับบริษัท รวมทั้ง ยังเป็นการต่อยอดโอกาสการลงทุน ในตะวันออกกลาง


เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า บริษัท พีทีทีอีพี มีนา จำกัด (PTTEP MENA Limited) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย (Share Purchase Agreement หรือ SPA) เพื่อเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 20 ในแปลง 61 ในประเทศโอมาน จากบริษัท บีพี เอ็กซ์พลอเรชั่น (เอปซิลอน) จำกัด (BP Exploration (Epsilon) Limited หรือ บีพี) เป็นมูลค่า 2,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะมีการปรับมูลค่าและเงินทุนหมุนเวียนตามเงื่อนไขใน SPA


ทั้งนี้มูลค่าดังกล่าว ยังไม่รวมมูลค่าเพิ่มเติมอีก 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากบริษัทบีพีสามารถบรรลุการดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขาย ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 64 โดยบริษัทจะใช้เงินสดที่มีอยู่ (Cash on Hand) ในการซื้อสัดส่วนการลงทุนครั้งนี้ อย่างไรก็ตามสัญญาซื้อขายดังกล่าวจะมีผลสมบูรณ์เมื่อได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลโอมาน

ทั้งนี้ แปลง 61 เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติบนบกที่มีปริมาณสำรองขนาดใหญ่ที่มีการผลิตก๊าซธรรมชาติถึงประมาณร้อยละ 35 ของประเทศ นับเป็นแหล่งก๊าซฯ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับตลาดก๊าซฯ ของโอมาน ซึ่งการเข้าร่วมทุนครั้งนี้ จะสามารถเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมและเพิ่มปริมาณการขายให้กับบริษัทได้ทันที รวมทั้งเปิดโอกาสให้ ปตท.สผ. ได้มีส่วนร่วมพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพในประเทศโอมานร่วมกับพันธมิตรซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันระดับโลก

แปลง 61 ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศโอมาน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3,950 ตารางกิโลเมตร มีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ แหล่งคาห์ซซาน (Khazzan) ซึ่งเริ่มผลิตในปี 60 และแหล่งกาห์เซียร์ (Ghazeer) เริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 63 โดยมีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติรวมกัน ประมาณ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (MMSCFD) และคอนเดนเสท มากกว่า 65,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งแปลงดังกล่าวสามารถพัฒนาแหล่งก๊าซรวมโดยได้ถึง 10.5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต (TCF)


หากการดำเนินการซื้อขายเสร็จสิ้น บีพี ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ จะมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 40 บริษัท โอคิว (OQ) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติโอมาน ร้อยละ 30, พีทีทีอีพี มีนา ร้อยละ 20 และบริษัท พีซี โอมาน เวนเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของปิโตรนาส (PETRONAS) ร้อยละ 10


ปัจจุบัน ปตท.สผ. มีการลงทุนในประเทศโอมาน ทั้งธุรกิจขั้นต้น (Upstream) และธุรกิจขั้นกลาง (Midstream) ได้แก่ โครงการพีดีโอ (แปลง 6) โครงการมุคไคซนา (แปลง 53) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบบนบกขนาดใหญ่ โครงการโอมาน ออนชอร์ แปลง 12 และโครงการโอมาน แอลเอ็นจี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวแห่งเดียวในโอมาน


“ก่อนหน้านี้ ในปี 62 ปตท.สผ. ได้เข้าไปลงทุนในโครงการพีดีโอ (แปลง 6) ซึ่งเป็นโครงการผลิตน้ำมันดิบบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโอมาน และโครงการโอมาน แอลเอ็นจี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแอลเอ็นจี ซึ่งการเข้าไปลงทุนในแปลง 61 นี้ ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ ก็ถูกป้อนเข้าสู่โครงการโอมาน แอลเอ็นจี ที่ ปตท.สผ.ได้ร่วมทุนอยู่ สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมที่มีศักยภาพ อีกทั้ง ยังเป็นการต่อยอดการลงทุนในห่วงโซ่ธุรกิจก๊าซ (Gas Value Chain) ของบริษัท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว และที่สำคัญยังเป็นการเสริมสร้างฐานการลงทุนและโอกาสการลงทุนของ ปตท.สผ. ในอนาคตในภูมิภาคตะวันออกกลางได้เป็นอย่างดี” นายพงศธร กล่าว


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews