Phones





บางจากฯ จับมือ"บีซีไอ"ใช้เทคโนโลยี LG On Blockchain

2021-03-26 17:17:30 722




นิวส์ คอนเน็คท์ – บางจาก ผนึกกำลัง บีซีไอ นำเทคโนโลยี LG On Blockchain มาใช้ในระบบการทำงาน หวังช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ พร้อมช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และลดค่าใช้จ่าย


เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทร่วมกับ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในการนำนวัตกรรมการให้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Letter of Guarantee on Blockchain) ประเภท Common Node (Website) ที่สามารถใช้บริการผ่านช่องทาง Web application มาปรับใช้ในกระบวนการตรวจสอบหนังสือค้ำประกันจากคู่ค้าและลูกค้าของบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ช่วยให้กระบวนการพิจารณาดำเนินต่อเนื่องได้สะดวกรวดเร็วขึ้นควบคู่ไปกับการลดขั้นตอนการทำงาน และลดค่าใช้จ่าย โดย บีซีไอ เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Blockchain สำหรับภาคธนาคาร ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย


ทั้งนี้ การรับหนังสือค้ำประกันผ่านระบบ Blockchain ได้เริ่มทดลองใช้ตั้งแต่เดือนก.ย.63 ทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในระบบการทำงาน เสริมศักยภาพและความคล่องตัวในการทำงาน ช่วยลดต้นทุนในการจัดการเอกสารและข้อมูล เนื่องจากทำงานผ่านระบบ Cloud Technology ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ป้องกันการปลอมแปลง รองรับการทำธุรกรรม และการตรวจสอบสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายของทุกธนาคารที่เข้าร่วมภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนาและต่อยอดระบบให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เข้าถึงทุกกลุ่มธุรกิจ และช่วยยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ธุรกิจไทยได้


อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะต่อยอดการใช้ LG on Blockchain ของกลุ่มบริษัทบางจากฯ และจะเข้าร่วมในการพัฒนาโครงการ Bank Confirmation on Blockchain ด้วย ซึ่งนอกจากเทคโนโลยี Blockchain แล้วบริษัทได้นำเทคโนโลยี Robotic Process Automation หรือ RPA มาพัฒนาระบบงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย RPA เป็นระบบซอฟต์แวร์ที่เปรียบเสมือนเป็นหุ่นยนต์ซอฟต์แวร์ (Robot) ทำหน้าที่แทนมนุษย์ มีความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูลที่มีรูปแบบต่างๆจำนวนมาก และประเภทงานที่ต้องทำซ้ำๆ ด้วยรูปแบบเหมือนเดิม เช่น การตรวจสอบการบันทึกข้อมูลการรับ-จ่ายเงิน และตรวจสอบยอดฝากธนาคาร การนำส่งข้อมูลให้กับราชการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ช่วยให้กระบวนการทำงานรวดเร็ว ถูกต้อง และสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ด้านนายสิริวัฒน์ เกียรติเจริญสิน ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บีซีไอ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ Blockchain ให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยได้มาตรฐานระดับสากล ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการสามารถบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกให้แก่คู่ค้าในการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แพลตฟอร์มหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบล็อกเชนได้มีบทบาทสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไม่ให้หยุดชะงัก


ทั้งนี้ บีซีไอ ยังได้นำศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีขององค์กรร่วมวางโครงสร้างพื้นฐานทางด้านระบบ Blockchain ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระบบการเงินใหม่ๆ ภายใต้โครงการ Financial Use Cases for Digital Business in Thailand เพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย ซึ่งล่าสุดได้พัฒนาโครงการ Bank Confirmation on Blockchain คาดว่าจะใช้งานได้จริงในไตรมาส 3/64 โดยความร่วมมือของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และบริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในการนำกระบวนการออกหนังสือรับรองทางการเงิน มาผนวกเข้ากับเทคโนโลยี Blockchain ทำให้การจัดการธุรกรรมและข้อมูลของสถาบันการเงินมีประสิทธิภาพสูง รวดเร็ว ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจการเงินและบัญชี


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews