Phones





KTB อวดกำไร5,578ล้านบาท เพิ่มขึ้น61.6%

2021-04-21 13:42:24 265




นิวส์ คอนเน็คท์ – KTB ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/64 มีกำไรสุทธิ 5,578 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.6% จากไตรมาสก่อนหน้า หลังค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองลดลง 12.9%


เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทายจากการระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 63 จนถึงต้นปี 64 และสถานการณ์การฟื้นตัวของภาคส่วนต่างๆยังคงไม่เท่าเทียมกัน แต่เงินให้สินเชื่อของธนาคารและบริษัทย่อยยังคงเติบโตจากสิ้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยใช้หลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss) โดยในปี 63 ธนาคารและบริษัทย่อยได้มีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระดับที่สูงกว่าที่ประเมิน เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจที่สะดุดลงจากผลกระทบของสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และในไตรมาส 1/64 ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงรักษาการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) อยู่ในระดับที่สูง


ทั้งนี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/64 จำนวน 5,578 ล้านบาท ขยายตัว 61.6% จากไตรมาสที่ผ่านมา โดยธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในจำนวน 8,058 ล้านบาท ลดลง 12.9% จากไตรก่อน เนื่องจากได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ในระดับสูงแล้วในไตรมาสที่ผ่านมา โดยธนาคารและบริษัทย่อยยังคงรักษาระดับ Coverage Ratio ในระดับสูงที่ 153.9% ซึ่งอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพก่อนหักค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อรวม (NPLs Ratio-Gross) อยู่ที่ 3.66% ลดลงจาก 3.81% เมื่อสิ้นปี 63


อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/64 ของธนาคารลดลง 8.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/63 โดยเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงอ13.0% ตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ (NIM) ลดลงเป็น 2.50% จาก 3.14% ในไตรมาส 1/63 ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยขยายตัวดีทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ ซึ่งขยายตัวจากค่าธรรมเนียมการจัดการ และค่าธรรมเนียมการรับรอง อาวัลและค้ำประกัน และรายได้จากการดำเนินงานอื่น ประกอบกับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดลง 5.8% โดยมี Cost to Income ratio เท่ากับ 44.25% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 43.49% ในไตรมาส 1/63


ทั้งนี้ ธนาคารได้เข้าทำสัญญากับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC โดยธนาคารตกลงที่จะขายหุ้นของบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด คิดเป็น 75.05% การซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขบังคับก่อน โดยการเข้าทำรายการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพของธนาคารและบริษัทย่อย ในการให้บริการผลิตภัณฑ์เช่าซื้อสำหรับลูกค้ารายย่อยอย่างครบวงจร



>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews