Phones





BBL รายงานกำไรสุทธิQ1/64จำนวน6,923ล้านบาท

2021-04-21 14:32:11 220




นิวส์ คอนเน็คท์ – BBL ประกาศผลงการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/64 โดยมีกำไรสุทธิ 6,923 ล้านบาท รับแรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หลังธนาคารมีการบริหารต้นทุนเงินฝากส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง


เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 6,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,525 ล้านบาท จากไตรมาส 4/63 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2.3% จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินรับฝากลดลงจากการบริหารต้นทุนเงินรับฝาก และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2.17% สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 15.4% จากค่าธรรมเนียมการให้บริการกองทุนรวมและบริการประกันผ่านธนาคาร และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 51.1%


ขณะที่ธนาคารยังคงตั้งสำรองตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 6,326 ล้านบาท โดยธนาคารยังคงดำรงฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง


โดย ณ สิ้นเดือนมี.ค. 64 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,369,276 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปี 2563 สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.7% ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อน โดยธนาคารยังคงให้ความสำคัญในการดูแลกระบวนการอำนวยสินเชื่อและบริหารความเสี่ยง ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ที่ 187.3%


ในส่วนของสภาพคล่อง ณ วันที่ 31 มี.ค. ธนาคารมีเงินรับฝากจำนวน 2,904,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% จากสิ้นปี 63 โดยเพิ่มขึ้นจากเงินรับฝากทุกประเภท สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ 81.6% สะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอในการรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ด้านเงินกองทุน ณ วันที่ 31 มี.ค. 64 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 18.4%, 15.9% และ 15.1% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com


หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews